ทุกบ้านส่วนใหญ่แล้วมีเครื่องซักผ้าใช้กันอยู่แล้ว แต่รู้ใหมว่าการล้างเครื่องซักผ้านั้นสําคัญมาก เ พ ร า ะจะทําให้เสื้อผ้าไม่มีกลิ่นอับ และใช้งานได้ย าวนาน วันนี้เรามีความรู้พื้นฐานที่พ่อบ้านแม่บ้านต้องรู้มาฝากกัน เชื่อว่าเพื่อนหล า ยคนยังไม่รู้และอย ากรู้กันแน่นอน มีวิ ธีการทําความส ะ อ า ดอ ย่ างไรไปดูกันค่ะ
ล้างถังซักผ้าด้วยน้ำส้มสายชูเพี ยงขวดเดียว
การจะล้างถังซักผ้านั้นไม่ย ากเลย แค่มีน้ำส้มสายชูสักขวดก็สามารถทำความส ะ อ า ดคร าบได้อย่ างหม ดจดแล้ว วิ ธีนี้สามารถใช้ได้ทั้งเครื่ องซักผ้าฝาหน้า ฝาบนและแบบสองถังเลย โดยนำน้ำส้มสายชูปริมาณ 200 มิลลิลิตร มาเทใส่ลงในช่องใส่น้ำย าซักผ้าแล้วกดเปิดให้ถังซักทำง านต ามปกติได้เลย หากเลือ กอุ ณห ภูมิน้ำได้หรือตั้งโหมดที่สามารถแช่น้ำทิ้งไว้ได้แน ะนำว่าให้ใช้น้ำที่มีอุณหภูมิสู งหน่อยหรือน้ำอุ่น เพื่อ กำจั ดเชื้ อโ ร คได้ดี และแช่ทิ้งไว้สักประมาณ 2-3 ชั่ วโมง จะยิ่งข จั ดคร าบสิ่งส กปร กที่ตกค้ างได้อย่ างหมดจด อีกทั้งยังช่วยลดกลิ่ นอั บในถังซักได้ด้วย ทั้งนี้เมื่อล้างถังซักกับน้ำส้มสายชูเสร็จแล้ว ให้ล้างถังเปล่าเพิ่มอีกสัก 1-2 รอบเพื่อข จั ดกลิ่นน้ำส้มสายชู
ใช้โป รแก รมล้างถังซักทุกๆ 2 เดือน หล า ยคนเลือ กที่จะซักผ้าอย่ างเดียวโดยลืมส นใจการทำความส ะ อ า ดถังซักไปเลย เครื่ องซักผ้าเดี๋ยวนี้มักจะมีโห มดล้างถังซักมาให้ ซึ่งเราควรจะทำความส ะ อ า ด 2 เดือนต่อครั้ง หากบ้านไหนซักผ้าบ่อยแทบทุกวัน อาจจะล้างทุกเดือนเลยก็ได้ การที่เราล้างถังซักจะช่วยลดสิ่งส กปร ก ลดเชื้ อโร คและแ บ คทีเ รี ย ป้ องกั นผ้าเหม็ นอั บหลังซักได้ดี อีกทั้งการที่เราดูแ ลหมั่นล้างถังซักให้ส ะ อ า ดอยู่เสมอจะช่วยให้เครื่องซักผ้านั้นสามารถใช้ง านได้น านขึ้นอีกด้วย
วิ ธีล้างทำความส ะ อ า ดช่องใส่น้ำย าซักผ้าและน้ำย าปรับผ้านุ่มด้วย
ในช่องบริเวณที่ใส่น้ำย าซักผ้าและน้ำย าปรับผ้านุ่มหล า ยคน มักจะล ะเ ลยในการทำความส ะ อ า ด ทั้งนี้หากปล่อยทิ้งไว้อาจเกิดครา บเหนี ย วจนอุ ดตั นได้ ทำให้การซักผ้าในทุกๆครั้งน้ำย าซักผ้าที่เราใส่ลงไป ไม่สามารถไหลลงไปในถังซักได้อย่ างเต็มที่
ไม่ใช่แค่นั้นหากเราปล่อยทิ้งไว้น านเกินอาจทำให้เกิดเ ชื้ อร าขึ้นได้ด้วย ฉะนั้นทางที่ดีควรถ อ ดถาดที่ใส่น้ำย าซักผ้าและน้ำย าปรับผ้านุ่มออ กมาล้างให้ส ะ อ า ด โดยอาจจะใช้แปรงสีฟั นเก่ าที่ขนนุ่มๆมาขัดเบาๆบริเวณที่มีคร าบเก าะ จากนั้นก็นำไปผึ่งให้แ ห้งแล้วค่อยเก็บใส่เข้าที่เดิมก็เป็นอันเรียบร้อย ข จั ดคร าบสิ่งส กปร กบริเวณซี ลหรือย างขอบฝาถังซักผ้าใช้ได้ทั้งเครื่องฝาบนฝาหน้า บริเวณซี ลหรือที่เรียกว่าขอบย างฝาเครื่ องซักผ้าเมื่อเราใช้ปั่นผ้าไปน านๆ
จะสังเกตเห็นว่ามีคร าบสีน้ำต าลมาเกาะขอบย างอยู่ นั้นเกิดจากสิ่งส กปร กของผ้ามาเก าะติด รวมถึงคร าบความมั น ครา บผ งซักฟอ กด้วย ไม่แค่นั้นการที่เราปิดฝาถังซักผ้าหลังจากที่ซักผ้าเสร็จ โดยที่ถังนั้นยังไม่แ ห้งดีอาจทำให้เกิดเชื้ อร าบริเวณขอบย างถังซัก สิ่งส ก ป ร กเหล่านี้ที่สะส มจึงเป็นต้นเ หตุให้ผ้าที่เราซักนั้นไม่ส ะ อ า ดดี และมีกลิ่ นอับ
ซึ่งการจะทำความส ะ อ า ดนั้นก็ไม่ได้ยุ่ งย ากอะไร เพี ยงนำผ้าชุบน้ำหม าดๆหรือแปรงสีฟั นเก่ าขนนุ่มมาขัดเช็ดบริเวณขอบย างแค่นี้ก็เรียบร้อย แต่ทั้งนี้เราอาจใส่น้ำย าสำหรับทำความส ะ อ า ดหรือน้ำย าฆ่ าเ ชื้ อโ ร คในการเช็ดเพิ่มด้วยก็ยิ่งดี แต่ก็ควรร ะวั งอย่ าใช้น้ำย ากรั ดก ร่ อนที่แ รงเกินไป เ พ ร า ะอาจทำซี ลหรือย างเสี ยหา ยได้นั้นเอง
ข้อแน ะนำสำหรับการใช้ถังซักผ้า เพื่อให้ผ้าที่ซักส ะ อ า ดและไร้กลิ่ นอั บ หลังการซักผ้าเสร็จเรียบร้อย ควรจะเปิดฝาถังซักทิ้งไว้ก่อนสักประมาณ 2-3 ชั่ วโมง เพื่อให้ถังซักมีอาก าศถ่ ายเทจนแ ห้งสนิทดี ป้อ งกั นการเกิดเชื้ อร าและกลิ่ นอั บ ที่นี้การซักผ้าในครั้งถัดๆไปจะช่วยลดก ลิ่นอั บและสิ่งส กปร กในผ้าได้ดีเลยล่ะ
ควรแ ยกสีผ้าก่อนนำไปซักผ้าทุกครั้ง เพื่อป้ องกั นผ้าสีตกและผ้าหม อง ข้อสำคั ญในการซักผ้าเลยคือ การแ ยกสีผ้าทุกครั้งก่อนนำเข้าเครื่ องซักผ้า โดยแ ยกผ้าข าวออ กจากผ้าสี และต้องแ ยกผ้าสีอ่ อนออ กจากผ้าสีเ ข้มด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ก็เพื่อป้ องกั นการเกิดปั ญห าผ้าสีตกหรือผ้าสีหม องที่จะต ามมานั้นเอง
ไม่ควรซักผ้าในแต่ละครั้งมากจนเกินไป
ในแต่ละครั้งที่มีการซักผ้า ไม่ควรยั ดผ้าเข้าถังซักจนแ น่นเกินไป เ พ ร า ะเวลาที่เครื่ องปั่นผ้าทำง าน ผ้าควรได้ขยั บอย่ างอิ สร ะเพื่อให้น้ำย าซักผ้าได้ทำปร ะสิ ทธิภ าพในการข จั ดคร าบสิ่งส กปร กบนตัวผ้าได้อย่ างทั่วถึง หากเรายั ดผ้าจนแ น่นถังเกินไปอาจทำให้ผ้าไม่ได้รับน้ำย าซักผ้าและน้ำย าปรับผ้านุ่มได้อย่ างทั่วถึง และบางทีคร าบน้ำย าเหล่านั้นอาจหลุดออ กไม่หมดหลังจากซักผ้าเสร็จอีกด้วย
ที่มา 108archeepparuay parinyajai