การที่เราได้ผักผลไม้มาจำนวน มากๆถ้ากินไม่หมดแน่นอนว่าไม่กี่วันผักเหล่านั้นก็คงเ น่ าเ สี ยและโยนทิ้งไปซึ่งก็น่าเ สี ยดายเพร า ะบางทีเพื่อนให้มา ข้างบ้านให้มาแทนที่จะเก็บไว้ได้นานๆไว้กินก็เ น่ าเ สี ย ฉนั้นจะดีไหมถ้าเรามีวิ ธีการเก็บรั ก ษ าผักผลไม้เหล่านี้ให้สดใหม่อยู่ได้นานๆมาฝากกัน จะเป็นอ ย่ างไรเราไปดูกัน
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องร า วที่ใกล้ตัวเราเป็นอ ย่ า งมาก สำหรับผัก ผลไม้ ของกินต่างๆ เก็ยไว้นานอาจเ น่ าเ สี ยได้ ทำให้ซื้อมาก็จำเป็นต้องรีบรับประทานให้หมด ด้วยเหตุผลดังกล่าววันนี้เราจะบอ กวิ ธีเก็บผักผลไม้ไว้ให้กินได้นานขึ้น มาฝาก โดยงานนี้มีครบทั้งวิ ธีเก็บผักผลไม้ในตู้เย็น ตู้เก็บของ รวมทั้งเคาน์เตอร์ บอ กเลยผักผลไม้เลิฟเว่อร์ห้ามพลาดเด็ดข า ด
วิ ธีเก็บผักให้ถูกต้องเก็บได้นาน
1 อ ย่ า งแรกเลยเพื่อนๆไม่สมควรเก็บผักทุกประเภทไว้รวมกัน จะก่อให้มีการเ น่ าเ สี ย หรือผักเ สื่ อ มสภาพเร็วขึ้น
2 และให้เพื่อนๆนั้นควรจะล้างผักให้ส ะ อ า ดก่อนจะเอามาทำกับข้าว เนื่องจากว่าผักที่ซื้อมาจากตลาดมักไม่ส ะ อ า ดเพียงพอ ถ้ายังมิได้ใช้ในทันทีให้ล้างทั้งต้นด้วยน้ำที่ส ะ อ า ด แล้วผึ่งให้สะเด็ดน้ำก่อน จึงเอาเข้าเก็บ
3 ทำการเก็บผักด้วยแนวทางแช่น้ำ ไม่สมควรแช่ผักลงในน้ำทั้งยังต้น เนื่องจากจะมีผลให้วิต ามินถูกละล า ยไปกับน้ำ สำหรับ วิ ธีเก็บผัก ให้ยังคงสด ใหม่ อยู่ได้นานและอยู่ในภาวะที่ดีพร้อมเสิร์ฟนั้น จำเป็นต้องเก็บให้เหมาะสมกับ
จำพวกของผักนั้นๆด้วย สามารถแบ่งได้ต ามนี้
1 ไม่สมควรแช่ผักกับผลไม้ไว้รวมกัน เนื่องจากว่าผลไม้สุกจะปล่อยก๊าซเอทิลีนออ กมา ทำให้ผักที่วางอยู่ใกล้ๆบางทีอาจเ สี ยเร็วขึ้น ด้วยเหตุผลดังกล่าวควรเก็บผักแล้วก็ผลไม้แยกถุงกัน หรือแยกชั้นกันก็ได้จ้ะ ก็จะสามารถช่วยต่ออายุผักได้นานเพิ่มขึ้น
2 กลุ่มผักที่เ น่ าเ สี ยง่าย อ ย่ า งเช่น เห็ด ผักชี ผักกาดหอม ถั่วงอ ก ถั่งฝัก ย า ว ผักบุ้ง หรือ กลุ่มผักที่เก็บได้ในช่วงเวลาที่ค่อนข้างจะจำกัด เป็นต้นว่า ผักกาด ผักคะน้า มะเขือเทศ ผักพวกนี้แม้ว่าจะเก็บในตู้แช่เย็นก็ยืดเวลาได้ไม่นานนัก แต่ว่าการเก็บที่ดีเยี่ยมที่สุดเป็น ใส่ถุงพลาสติกที่ส ะ อ า ดและก็แห้ง จะช่วยเก็บไว้ได้นานขึ้น 5-7 วัน
3 วิ ธีเก็บผัก ควรจะแยกเก็บต ามจำพวกของผัก ด้วยเหตุว่าส่งผลให้เกิดการเน่ า หรื อเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ด้วยเหตุนั้นจึงต้องควรเก็บผักแต่ละจำพวกโดยแยกกันเป็นสัดส่วน การเก็บผักนั้นไม่สมควรล้างก่อนเก็บ ควรล้างเมื่อจะเอามาทำกับข้าวแค่นั้น จำพวกผักใบ ถั่วลันเตา ถั่วแขก พวกนี้ควรจะแยกใส่ถุงพลาสติกแล้วเก็บไว้ที่อุณหภูมิ 45 องศาฟาเรนไฮต์ จะช่วยทำให้อาจจะความสดใหม่อยู่ได้นานขึ้น
4 ผัก หั ว จำพวกแครอท หั วบี ท หั วผักกาด เผือ ก ให้ตัดใบออ กให้หมดก่อนเก็บ แม้ไม่ตัดออ กความหวานในหัวจะลดลง ส่วนผักที่มีเปลือ กห น า ดังเช่นว่า ฟักทอง ฟัก แฟง มั น ฝ รั่ ง เผือ ก เก็บได้เลยโดยไม่ต้องล้าง สามารถวางเอาไว้ในที่เย็น อากาศระบาย และก็อยู่ที่อุณหภูมิร า ว 55-65 องศาฟาเรนไฮต์ จะช่วยทำให้เก็บไว้ได้นานขึ้น
เมื่อทร า บแนวทางเก็บผักแล้ว จะไม่รู้ขั้นตอนการทำความส ะ อ า ดผักเพื่อลดส า ร เ ค มีได้อ ย่ า งไร มาดูกันจ้ะว่ามีวิ ธีไหนบ้าง
1 ใช้โซเดียมไบคาร์บอเนต 1 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำอุ่นโดยประมาณ 20 ลิตร แล้วหลังจากนั้นแช่ผักนาน 15 นาที และจากนั้นจึงนำไปล้างน้ำส ะ อ า ดหล า ยๆครั้ง จะสามารถลดส า ร ต กค้า งได้ร า วๆ 90-95 เปอร์เซน
2 ใช้น้ำส้มสายชูที่มีกรดความเข้มข้น 5 เปอร์เซน ผสมในอัตร า ส่วน 1:10 ได้แก่ น้ำส้มสายชู 1 ถ้วยตวง จำเป็นต้องใช้น้ำ 10 ถ้วยตวง แล้วหลังจากนั้นนำไปแช่ผัก 10-15 นาที แล้วเอามาล้างด้วยน้ำที่ส ะ อ า ด วิ ธีการแบบนี้สามารถช่วย ล ด ส า รเ ค มีได้ร า วๆ 60-84 เปอร์เซน
3 แนวทางง่ายๆด้วยการปล่อยน้ำไหล ผ่ า นผัก โดยเด็ดผักเป็นใบๆใส่ตระแกรงโปร่งไว้ แล้วก็ใช้มือช่วยคลี่ใบผักล้างไปด้วย ใช้เวลาทำโดยประมาณ 2 นาที จะสามารถช่วยล ด ส า ร เ ค มีในผักได้ร า วๆ 25-63 เปอร์เซน
4 การแช่น้ำ เริ่มด้วยการล้างผักรอบแรกให้ส ะ อ า ดซะก่อน ต่อไป เ ด็ กผักออ กเป็นใบๆแล้วเอามาแช่ลงในอ่างน้ำที่จัดเตรียมไว้โดยประมาณ 15 นาที วิ ธีการแบบนี้จะช่วยลด ส า ร พิ ษ จากฆ่ า ย า แ ม ล งได้ร า ว 7-33เปอร์เซน
5 ด่างทับทิม ให้ใช้ด่างทับทิมร า ว 20-30 เกล็ด ผสมกับน้ำ 4 ลิตร แล้วหลังจากนั้นก็ให้นำผักมาแช่ไว้ภายในน้ำด่างทับทิมร า วๆ 10 นาที จากนั้นให้ล้างออ กโดยใช้น้ำส ะ อ า ดอีกที วิ ธีแบบนี้จะช่ ว ยลดประมาณของส า ร พิ ษต ก ค้ า งไ ด้โดยประมาณ 35-43 เปอร์เซน
ที่มา 108archeepparuay