อากาศร้อนๆเดินทางนั่งรถแอร์เย็นๆก็พอได้ผ่อนคล า ย แต่ถ้าเกิดขึ้นไปแล้วแอร์รถไม่เย็นนี่สิ แน่นอนว่าการเดินทางของคุณไม่เกิดความสุขแน่ ฉนั้นเชื่อว่าหล า ยคนคงเคยพบเจอ กับปัญหาแบบนี้
เพราะทุกวันนี้รถยนต์เป็นย า นพานะที่ทุกๆคนจำเป็นต้องใช้และหล า ยคนที่มีรถเป็นของตัวเองเพราะจำเป็นต่อ การเดินทางไปไหน มาไหน ทั้งงาน ธุ ร ะต่างๆก็ต้องใช้รถยนต์ด้วยกันทั้งนั้น
วันนี้เรามีคำแนะนำที่จะช่วยให้แอร์ในรถยนต์ของทุกคน มีอ า ยุ ก า รใ ช้งานที่นานขึ้นได้ ไม่เกิดปัญหาจิปาถะต่างๆนาๆ รวมทั้งไม่ต้องเ สี ยเ งิ นจ้างช่างหรือนำรถเข้าอู่กันให้เ สี ยเวลาเลย เพียงรู้เ ท ค นิ คทั้งหมดนี้
1 ก่อนสต าร์ทรถควรรอให้อุณหภูมิในรถเย็นลงก่อนค่อยเปิดแอร์
หล า ยคนเมื่อขึ้นรถแล้วเจอ กับอุณหภูมิที่ร้อนอบอ้าวจากการจอ ดรถต ากแดดหรือจากอากาศร้อนจัด พย า ย า มอ ย่ าสต าร์ทรถแล้วเร่งแอร์ไปที่เบอร์แรงสุด เพราะจะทำให้ระบบแอร์ทำงานหนักเกินไปหากทำบ่อยๆจะเกิดปัญหาต ามมา ทางที่ดีคือเมื่อขึ้นรถแล้วให้เปิดหน้าต่างทั้งหมดแล้วเปิดพัดลมเบอร์แรงสุด ทำการไล่ไอความร้อนออ กจากรถเ สี ยก่อน จากนั้นจึงปิดหน้าต่างแล้วเปิดสวิตช์ A/C เพื่อให้คอมเพรสเซอร์แอร์ทำงาน เป็นการถนอมคอมแอร์อีกวิ ธีหนึ่งที่แนะนำให้ทำ
2 ไม่เปิดกระจกรถขณะรถกำลังวิ่งอยู่
การเปิดหน้าต่างในขณะขับรถ จะทำให้เศษฝุ่นผงต่างๆปลิวเข้ามาภายในรถและจะเข้าไปเกาะด้านในของคอมแอร์มากกว่าปกติ ดังนั้น หากต้องการที่จะเปิดกระจกขับรถ ขอให้ทำการปิดช่องแอร์ทั้งหมดให้เรียบร้อยเ สี ยก่อน เพื่อป้องกันฝุ่นเข้าไปอุดตันภายในช่องแอร์ทำให้แอร์ไม่เย็นและมีปัญหาบ่อยๆ
3 การเปิดแอร์บนรถที่ถูกต้อง
ทุกครั้งก่อนที่เราจะสต าร์ทรถ ขอให้เราแน่ในว่าสวิตช์ที่เป็นตัวควบคุมแอร์ หรือตัวคุมคอมเพรสเซอร์ที่ทำให้แอร์มีความเย็นออ กมาได้นั้น ปิดอยู่ สวิตช์นี้คือตัว A/C นั่นเอง ก่อนที่จะสต าร์ทเครื่องยนต์ ให้เราทำการปิดสวิตช์ A/C เอาไว้ก่อน เพราะหากเปิดสวิตช์ค้างไว้ในตอนสต าร์ท คอมฯแอร์จะทำการฉุดเครื่องให้กำลังไม่เป็นปกติ ซึ่งหากทำบ่อยๆก็จะเกิดความเ สี ยห า ยต่อระบบได้ง่ายขึ้น
4 ไม่ใช้น้ำหอมที่ผสมแ อ ล ก อฮ อ ล์ในรถยนต์
การใช้น้ำหอมเพื่อสร้างบรรย ากาศที่ดีในรถยนต์ควรเลือ กใช้วิ ธีการหรือผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะเมื่อแอลกอฮอล์ระเหยขึ้นจะทำให้เกิดความเ สี ยห า ยภายในของระบบแอร์โดยรวม ทำให้เกิดปัญหาอื่นๆต ามมาง่ายขึ้น และทำให้แอร์เสื่อมไวอีกด้วย
5 เ ท ค นิ คทำให้แอร์เย็นฉ่ำอยู่เสมอ
บ่อยๆที่เราขึ้นรถแล้วต้องปะทะกับไอร้อนภายในตัวรถที่จอ ดต ากแดดไว้นานๆ หลังจากที่เราขึ้นรถเรียบร้อยแล้วให้ทำการเปิดพัดลมโดยเลือ กไปที่เบอร์แรงที่สุด โดยให้เราเปิดแต่พัดลมทิ้งเอาไว้ประมาณ 5 นาที เพื่อจัดการไล่ความร้อนภายในรถออ กไป อาจเปิดหน้าต่างด้วยก็ได้หากรถยังไม่ได้ออ กตัว หลังจากนั้นให้ปิดหน้าต่างแล้วเปิดสวิตช์ A/C ได้ต ามปกติ เมื่อความร้อนอบอ้าวออ กไปจากรถแล้ว แอร์ก็จะเย็นฉ่ำชื่นใจได้เร็วขึ้นและยังเป็นการถนอมแอร์รถยนต์ของเราได้อ ย่ างดีทีเดียว
6 อ ย่ าหันแกนแอร์ออ กด้านข้าง
หากรู้สึกว่าแอร์เย็นเกินไป ให้เราทำการปรับอุณหภูมิของแอร์ให้อุ่นขึ้น ไม่ควรใช้วิ ธีปัดแอร์ไปทางอื่นหรือปิดช่องลมแอร์ เพราะความร้อนและความเย็นที่ต่างกันจะทำให้คอมเพรสเซอร์แอร์ทำงานหนักโดยไม่จำเป็น และหากทำบ่อยๆก็จะทำให้เสื่อมไว หรือเกิดปัญหาอื่นๆต ามมาได้
7 ไม่ควรฝืนเปิดแอร์หากแอร์รถยนต์อยู่ในอาการที่ผิ ดปกติ
หากแอร์ไม่มีไอเย็นออ กมาทั้งๆที่เปิดสวิตช์แล้ว ให้เราปิดสวิตช์แอร์ไปเลย แล้วเปิดแค่พัดลมเท่านั้น เพราะหากฝืนเปิดอยู่จะทำให้อาการเ สี ยของแอร์แย่ยิ่งกว่าเดิม เมื่อแอร์ไม่เย็นจนรู้สึกได้ให้ปิดและนำรถเข้าไปเช็คกับศูนย์หรือเข้าอู่ทันทีเพื่อรั ก ษ าคอมแอร์ให้มีอายุนานขึ้น
8 ป้องกันความชื้นที่อาจเกิดขึ้นได้บ่อยๆ
ทุกครั้งที่เรากำลังจะถึงที่หมายและใกล้จะต้องจอ ดรถดับเครื่องปิดแอร์ ให้เรากะเวลาก่อนที่จะดับเครื่องยนต์ประมาณ 10-15 นาทีก่อนดับเครื่อง ให้ทำการปิดสวิตช์คอมแอร์หรือ A/C เอาไว้ก่อน แล้วเปิดแค่พัดลมเพียงอ ย่ างเดียวก่อนที่จะจอ ดรถดับเครื่องยนต์ วิ ธีนี้จะช่วยไล่เอาความชื้นที่จะเกิดขึ้นออ กไปได้ ลดปัญหากลิ่นอับที่มักเกิดขึ้นจากช่องแอร์รถยนต์
ทั้ง 8 วิ ธีนี้ เป็นเ ท ค นิ คการใช้แอร์รถยนต์ที่ถูกต้องเพื่อทำให้คอมแอร์ที่เป็นตัวควบคุมความเย็นของรถเรามีอายุการใช้งานที่ย าวนาน ไม่เ สี ยง่ายและห ลี กเ ลี่ ย งปัญหาจุกจิกกวนใจเกี่ยวกับเรื่องแอร์รถไม่เย็น หรือน้ำแอร์หยด และอื่นๆอีกหล า ยอาการ เพียงใช้อย่ า งเข้าใจรถบบของแอร์รถ ก็จะช่วยทำให้ประหยัดเ งิ นค่าซ่อมบำรุงและยังช่วยประหยัดน้ำมันรถได้อีกด้วย
ที่มา krustory
