ถ้าพูดถึงผักใครๆก็รู้ดีว่ามัน มีประโยชน์ต่อร่างกายมากแค่ไหน แต่หล า ยๆคนก็มักจะคุ้นเคยผักต ามท้องตลาดมากกว่าเ พ ร า ะเป็นผักต ามฤดูกาล แต่เราจะบอ กว่าผักที่ขึ้นเองต ามริมรั้วก็มีประโยชน์ไม่แพ้กัน วันนี้เราเลยจะพามาดูผักริมรั้วที่มากประโยชน์ที่ควรมีไว้จะเป็นอะไรบ้างนั้นเราไปดูกัน
พืชผักที่หาเก็บได้ต ามรั้ว อาจถูกมองข้ามว่าเป็นผักร า ค าถูก ไม่มีคุณค่าใดใด แต่จากการวิจัยได้บ่งชี้ว่า ผักริมรั้ว 4 ชนิดมีส ร ร พ คุ ณทาง ย า ช่วยดูแลสุ ข ภ า พร่างกายให้ดีขึ้นได้ โดยจะช่วยล ดระดับน้ำต าลในเ ลื อ ด ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ จึงห่างไกลจากโ ร ค ร้ าย แ ร งหล า ยชนิด
1 ชะพลู
จะเด่นในเรื่องช่วยล ดระดับน้ำต าลในเ ลื อ ด จึงเหมาะมากสำหรับผู้ที่เป็นโ ร ค เ บ า ห ว า น เ พ ร า ะจะช่วยควบคุมและล ดเ บ า ห ว า น ให้อยู่ในระดับที่ไม่ อั น ต ร า ย โดยเราจะใช้ชะพลูทั้งต้นจนถึงรากประมาณ 1 กำมือ พับเถาให้เป็น 3 ทบ จากนั้นนำตอ กไม้ไผ่มามัดเป็น 3 เปลาะ ใส่ลงไปในหม้อต้มต ามด้วยน้ำระดับพอท่วม แล้วต้มเพื่อจะทำเป็นน้ำเอาไว้ดื่ ม ต้มจนกว่าน้ำจะเหลือ 1 ส่วนจากน้ำที่เติมเอาไว้ 3 ส่วน แล้วค่อยนำมาดื่ มได้ อาจจะกรอ กใส่ขวดเก็บไว้ดื่ มได้ทุกวัน วิ ธีดื่ มก็ให้ดื่ ม 1/2 แก้ว วันละ 3 เวลาก่อนอาหาร นั่นคือ เช้า กลางวัน เย็น ดื่ มแบบนี้เป็นประจำ จะช่วยควบคุมระดับน้ำต าลในเ ลื อ ด ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
2 ตำลึง
แม้จะเป็นผักที่สามารถหาเก็บได้ริมรั้ว แต่มีงานวิจัยออ กมาแล้วว่า ตำลึงเป็นพืชผักส มุ น ไ พ รที่มี ส า รต้ า น อ นุมู ลอิสระสูง ซึ่งมีส่วนช่วยป้ อ ง กั นการเกิดโ ร ค ต่างๆได้เป็นอ ย่ า งดี โดยเราจะเอาเถ้าแก่ๆของตำลึงประมาณ 1/2 ถ้วย มาต้มในน้ำส ะ อ า ด ก็จะได้น้ำตำลึงเอามาดื่ ม หรือจะคั้นเอาน้ำจากใบสดๆแล้วผสมกับน้ำดื่ มก็ได้ ให้ดื่ มเป็นประจำวันละ 2 แก้วเช้าและเย็นอ ย่ า งต่อเนื่อง ก็จะทำให้เห็นผลได้ชัดเจนรวดเร็ว
3 ผักเชียงดา
ช่วยฟื้นฟูในส่วนของเซลล์ตั บอ่อนที่จะช่วยสร้างอินซูลิน และล ดน้ำต าลในเ ลื อ ด อีกทั้งยังช่วยป้ อ ง กั นการดูดซึมของน้ำต าลในร่างกายได้ โดยเราจะใช้ใบแห้งมาต้มเป็นน้ำชาครั้งละ 4 กรัม ดื่ มเป็นประจำวันละ 2-3 ครั้ง หรือพร้อมมื้ออาหารช่วยทดแทนการทานผักได้ดีอีกด้วย
4 มะระนก
มีส่วนช่วยในการกระตุ้นอินซูลินที่เข้ายับยั้งการสร้างกลูโคส จึงส่งผลให้น้ำต าลในเ ลื อ ด ล ดต่ำลง โดยเราจะคั้นน้ำจากผลสดๆประมาณ 2-3 ผล แล้วเอาไปปั่นโดยใส่เมล็ดลงไปด้วยเล็กน้อย จะผสมน้ำส ะ อ า ดลงไปด้วยก็ได้ ให้ทำดื่ ม 3 เวลา เช้า กลางวัน เย็น แบบนี้เป็นประจำทุกวัน ก็จะช่วยควบคุมระดับน้ำต าลในเ ลื อ ด ให้เป็นไปอ ย่ า งปกติ
ในช่วงเวลาอื่นๆ นอ กจากวิ ธีนำมาทานแบบที่ได้กล่าวมาแล้ว ก็ยังสามารถนำมาประกอบอาหารได้มากมายหล า ยชนิด เช่น แกงจืดตำลึง แกงผักเชียงดา เมี่ยงคำ หรือจะเอามะระขี้นกมาทานกับน้ำพริกก็อร่อย จากผักริมรั้วที่หาเก็บได้ทั่วไป แม้จะไม่ค่อยมีมูลค่ามากมาย แต่มีประโยชน์มหาศาลต่อร่างกาย ทั้งดี หาทานง่าย และร า ค าไม่แพงแบบนี้ ต่อไปก็คงจะมองข้ามไปไม่ได้แล้วล่ะ
ที่มา Parinyajai krustory