ความสำเร็จใดๆ ในโลกที่เราเห็นกันนั้น เราเห็น มันเฉพาะไม่ถึง 1เปอร์เซน ของสิ่งที่เกิดขึ้น มันง่ายมากที่จะตัดสินใครว่าประสบความสำเร็จง่ายจัง เพียงเ พ ร า ะเราเห็นแต่ ปล า ยทาง ของเขา แต่เราต้องไม่ลืมว่า แล้ว ระหว่างทาง ล่ะ เขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง
อารมณ์เดียวกับเวลาเราเห็นนักกีฬาโอลิมปิกได้เหรียญทอง เราเห็นเขาวิ่งแข่งชนะง่ายจัง แต่เราต้องไม่ลืมนะครับว่าเขาต้องซ้อมมามากแค่ไหน ล้ มมามากแค่ไหน เ จ็ บป ว ดมาระหว่างการซ้อมแค่ไหน แพ้มากี่ครั้ง ถอ ดใจไปบ้างไหม
เรามักจะมองดูคนอื่นที่ ประสบความสำเร็จ แล้ว เกิดความสงสัย ทำไมมึง ร ว ยจัง ทั้ง ๆ ที่ตอนเรียนก็ไม่ได้เก่ง ไปกว่า กูเลย ตอนทำงาน ก็เห็นแต่ไปเที่ยว นั่นนี่ไม่เห็น จะทำงานเลย แต่ชีวิตตอนนี้ กลับเจริญก้าวหน้าในหน้าที่ การงานและมีร า ยได้ มากกว่า นั้นเป็นเ พ ร า ะว่าคุณเห็น แต่ตอนเขาสบายแล้ว แต่ไม่เห็นตอนเขาลำบาก กว่าจะมาถึงจุดนี้
แท้จริงแล้วคนเราต่างกัน เพียงนิดเดียว ตรงที่ ความคิด และ การลงมือทำ คนเราได้ลงมือทำฝึกฝนแล้ว จึงเก่งแต่อะไร ก็ย าก ถ้าไม่ลงมือทำ ในขณะที่คุณกำลัง นอนเอานิ้วไถ โทรศัพท์ไปเรื่อย อยู่บนเตียงนอน อ ย่ างสบายใจ เขากำลังไปออ กกำลังกาย เป็นประจำทุกวัน หลังเลิกงาน
ดังนั้น จึงไม่แปลกที่เขาจะมีสุ ข ภ า พที่ดี หุ่ นที่ดูดีกว่าคุณ ในขณะที่คุณทำงาน เอาแต่มองดูนาฬิกาว่าเมื่อไหร่ จะถึงเวลาเลิกงานสักที เขากำลังตั้งใจทำงานอ ย่ างเต็มที่ หางานที่ย ากขึ้น เพื่อพัฒนาทักษะใหม่ ๆ ในการทำงาน ดังนั้น จึงไม่แปลกที่เขาจะได้เลื่อนขั้น เป็นหัวหน้า แต่คุณยังอยู่ที่เดิม
ในขณะที่คุณกำลังเพลิดเพลินไป กับ การช้อปปิ้ง และใช้เ งิ น เขากำลังเพลิดเพลินกับการหาช่องทาง ในการทำเ งิ นและอาชีพเสริม เพื่อเพิ่มร า ยได้ ดังนั้น จึงไม่แปลกที่เขาจะมีฐานะที่มั่นคง และร่ำร ว ยกว่าคุณ ในขณะที่คุณกำลังคิดอ ย่ างหนัก ถึงผลประโยชน์ ที่คุณจะได้ จากฝ่ายตรงข้าม
เขากำลังคิดและพิจารณา ถึงผลประโยชน์ที่ทั้งเขา และฝ่ายตรงข้าม จะได้ด้วยกัน ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เขาจะมีมิตรภ า พที่ดี และมีความสมัพันธ์ที่ดี กับ คนรอบข้าง ความสำเร็จนั้นไม่มีปาฏิหาริย์มาช่วยมีแค่ลงมือทำด้วยตัวเอง อ ย่ ารอให้เก่งแล้วค่อยลงมือทำคนเราลงมือทำแล้วจึงเก่ง
ที่มา b i t c o r e t e c h thestandard kaeyim