เ ช็ ค 12 จุดของรถทุกครั้งก่อนเดินไกล เพื่อความปลอ ดภั ย

ในวันหยุดหล า ยๆคนก็มักจะพาครอบครัวไปเที่ยวต่างจังหวัด หรือไปเยี่ยมพี่น้อง ดังนั้นสิ่งสำคัญในการเดินทางก็คือ รถของเรานั้นเอง ฉนั้นเราควรจะต้องเ ช็ คสภาพรถให้ดีก่อนเดินทาง เพื่อความปลอ ดภั ย และวันนี้เราจะมาบอ ก 12 จุดสำคัญที่ต้องเ ช็ ค ก่อนออ กเดินทางทุกครั้ง ไม่ว่าจะใกล้หรือไกล เพื่อความปลอ ดภั ย

1. แบตเตอรี่และระบบสายไฟในรถ

เราควรตรวจเ ช็ คระดับน้ำกลั่นว่าอยู่ระดับไหน ควรเติมหรือยัง รวมถึงเปลือ กของแบตเตอรี่ว่ามีความชำรุดไหม และสายไฟต่างๆให้อยู่ในสถาพพร้อมใช้งานเสมอ เพื่อความปลอ ดภั ยในการขั บขี่ และการเดินทางทุกครั้ง

2. ระบบไฟ

ระบบไฟก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามมากๆ ควรจะเ ช็ คเสมอว่าไฟทุกดวงยังใช้งานได้ต ามปกติ ทั้งกลางวันและกลางคืน โดยเฉพาะหากต้องเดินทางในตอนกลางคืน ไฟจะเป็นตัวช่วยในการมองเห็น และยังเป็นจุดสังเกตให้กับรถคันอื่นด้วย ดังนั้นควรเ ช็ คไฟทุกจุดให้แน่ใจว่ายังใช้งานได้ดี

3. แตรรถ

แตรรถที่หล า ยคนซื้ อรถมา อาจจะใช้แบบนับครั้งได้เลย และมักจะมองข้ามกัน ไม่ค่อยเ ช็ คในส่วนนี้ แต่หากถึงเวลาที่ต้องใช้จริงๆมันสำคัญมากนะในการขั บขี่ เราควรจะเ ช็ คว่าแตรยังมีเ สี ยงดัง ใช้งานได้ต ามปกติดีทุกครั้งก่อนออ กเดินทาง

4. ที่ปัดน้ำฝน

หล า ยคน มักจะมองข้ามสิ่งนี้ และไม่ค่อยจะตรวจเ ช็ คสักเท่าไหร่ แต่จริงๆแล้วมันสำคัญมากนะ เพราะถ้าหากเกิดฝนตกขึ้น มา แล้วที่ปัดน้ำฝนเช็ดกระจกไม่สะอาด ก็จะทำให้ทัศนีภาพในการมองเห็นไม่ดี และส่งผลให้การขั บขี่รถนั้น มี อั น ต ร า ย ได้ง่าย ดังนั้นควรเปลี่ยนที่ปัดน้ำฝนเมื่อหมดอายุการใช้งาน เฉลี่ยอยู่ที่ 2 ปี แต่ถ้าอากาศร้อน มาก ที่ปัดก็จะ เ สื่ อ ม สภาพเร็วกว่าปกติ ควรเ ช็ คบ่อยๆจะดีที่สุด

5. อะไหล่สำรอง

ชื่อก็บอ กอยู่ว่าเป็นอะไหล่สำรอง ก็ควรจะเตรียมความพร้อมไว้สม่ำเสมอ เมื่อเกิดเหตุ ฉุ ก เ ฉิ น ขึ้น มา จะได้ใช้การได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นย างอะไหล่รถ แม่แรง และตัวขันต่างๆ มีเผื่อได้ใช้ ดีกว่าจะใช้แล้วไม่มีนะ

6. น้ำมันเบรก

เราควรตรวจเ ช็ คน้ำมันเบรกไม่ให้ต่ำกว่าที่กำหนด เพราะน้ำมันเบรกมีหน้าที่ในการช่วยให้เบรกทำงานได้ดี มีความหล่อลื่นดี เมื่อเราใช้งานเบรกไปนานๆ ทำให้น้ำมันเบรกไม่พอและเบรกจะสึกหรอได้ หรืออาจถึงขั้น เ บ ร ก แ ต ก เลยล่ะ ดังนั้นจึงไม่ควรละเลยการเ ช็ คน้ำมันเบรกกันนะ

7. ระบบปรับอากาศ

เครื่องปรับอากาศเป็นสิ่งที่ข า ดไม่ได้เลย โดยเฉพาะสภาพอากาศร้อนๆแบบบ้านเรา หากวันไหนขั บรถไปเกิดระบบปรับอากาศมีปัญหา แอร์ไม่เย็น มีกลิ่นอับ คงนั่งรถไม่มีความสุขแน่ๆ และควรเปลี่ยนกรองแอร์ทุก ๆ 1 หมื่นกิโลเมตร เพื่อให้อากาศห า ยใจในรถเย็นสดชื่น

8. ระบบเบรก

ให้เ ช็ คระบบเบรก โดยการขั บบนถนนโล่งๆ ด้วยความเร็ว 30 กิโลเมตร/ชั่ วโมง แล้วให้ เ ห ยี บ บ เบรกแบบเต็มแรง หากรู้สึกว่ายังมีแรงสะท้านที่เบรกแบบถี่ๆ แสดงว่ายังใช้งานได้ต ามปกติ แต่ถ้าหากได้ยินเ สี ยงดังเอี๊ยด แปลว่า ระบบกำลังมีปัญหา ให้รีบเข้าศูนย์เพื่อเ ช็ คให้ละเอียดโดยด่วน

9. ย างรถยนต์

หล า ยคนก็ไม่ได้สังเกตย างรถยนต์ แต่เราควรจะตรวจเ ช็ คย างรถยนต์ทุกครั้งก่อนออ กเดินทาง ดูว่าภายนอ กยังปกติหรือไม่ มีความ ปู ด บ ว ม ออ กมาไหม สภาพย างรถยนต์ที่ดีคือ เหลือไม่น้อยกว่า 3 มิลลิเมตร และดูรอบๆว่ามีรอย ฉี ก ข า ด ของย าง หรือรอย ก รี ด ที่ย างหรือเปล่า ที่สำคัญควรเติมลมย างให้แน่นพอ ดีทุกครั้ง

10. น้ำมันเครื่อง

ก่อนสต าร์ทรถ ให้เ ช็ คน้ำมันเครื่อง ตรวจสอบดูระดับของน้ำมันเครื่อง โดยดึงก้านเ ช็ คน้ำมันเครื่องดู หากอยู่ต่ำกว่าก้านที่ระบุไว้ ควรเติมน้ำมันเครื่องให้เรียบร้อยทุกครั้งก่อนออ กเดินทาง และควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุกๆ 10,000 กิโล เพื่อให้เครื่องใช้งานได้ดีมีประสิทธิภาพ ไหลลื่นปกติดี

11. สายเข็มขัด นิ ร ภั ย

เราควรเ ช็ คเข็มขัด นิ ร ภั ย ทุกครั้งเสมอ ว่ายังแน่น ล็อ กได้ โดยการดึงเร็วๆหล า ยๆครั้ง และสามารถช่วยเซฟได้ดีอยู่ ในกรณีที่เกิดเหตุ ฉุ ก เ ฉิ น เพื่อความปลอ ดภั ยในการขั บขี่

12. ระบบน้ำ

ระบบน้ำของรถก็ควรจะเ ช็ คให้เรียบร้อยด้วยเช่นกัน ว่ายังอยู่ในระดับที่กำหนดหรือไม่ รวมถึงในหม้อน้ำว่ามีเศษอะไรตกลงไปหรือเปล่า หากมีก็เอาออ กให้เรียบร้อย

ที่สำคัญควรมีเบอร์ ฉุ ก เ ฉิ น ติดบนรถไว้เสมอ เมื่อเกิดเหตุอะไรจะได้โทรเรียก หรือขอความช่วยเหลือได้ทันที และการเ ช็ คสภาพรถก็เป็นสิ่งจำเป็นที่เราควรจะทำให้เคยชินเป็นนิสัย เพราะนอ กจากจะเซฟความปลอ ดภั ยให้ตัวเราเองแล้ว ก็ยังเป็นการป้องกันอุ บั ติ เ ห ตุกับผู้อื่นด้วยเช่นกัน

ที่มา  bitcoretech