ความใฝ่ฝันของทุกคนก็คืออย ากมีบ้านเป็นของตัวเอง แต่ร า ค าบ้านในปัจจุบันนั้นต้องบอ กว่าแพงมาก การจะเก็บเงินก้อนเพื่อซื้อบ้านในร า ค าเงินสดก็แทบเรียกว่าเป็นไปไม่ได้เลย บางคนบอ กว่าอ ย่ าว่าแต่ซื้ อบ้านเ งิ นสดเลย
แค่จะเก็บเ งิ นเพื่อ ดา วน์บ้านสักหลังก็เล่นเอาหน้ามืดแล้ว เงิ นดา วน์ของบ้านเมื่อเทียบกับรถยนต์ถือว่าสูงกว่ามาก บางคนต้องตั้งหน้าตั้งต าเก็บเงินตั้งหล า ยปีกว่าจะได้เงินก้อนแค่เพียงสำหรับด า วน์บ้านเท่านั้น
ใครที่กำลังอยู่ในระหว่างการผ่ อ นบ้านอยู่ รู้หรือไม่ว่า มัน มีวิ ธีที่เราจะสามารถผ่ อ นบ้านให้หมดได้เร็วขึ้นกว่าเดิมแ ถ ม ยั งได้เงินคืนอีกด้วย ลองศึกษาวิ ธีต่อไปนี้ดูรับรองว่า ได้ประโยชน์กันอ ย่ า งแน่นอน
ขอแ บ่ ง ปั นเรื่องราวดีๆที่ต้องบ อ ก ต่ อ ที่จะช่วยให้การผ่ อ นบ้านของคุณ สามารถประหยัดเงินได้เป็นแสนเลยทีเดียว โดยเป็นประสบการณ์ตรงจากเจ้าของเรื่อง
1 เรื่องแรกที่เราควรรู้คือ หากเราอย า กผ่ อ นบ้านให้หมดไวๆ เราต้องรู้จักขอล ด ด อ ก เ บี้ ย
2 ซึ่งจะทำให้เราได้เงินบางส่วนคืน โดยเป็นเงินประกันที่เราได้จ่ายไปตอนทำเรื่องกู้เงิน ที่ทางธนาคารแจ้งกับเราว่าเป็นเงินประกันที่ช่วยให้เรื่องขอ กู้ผ่ านง่ายขึ้นนั่นเอง
การจะทำเรื่องขอล ดห นี้ให้เราทำต ามดังนี้
1 สัญญาส่วน มากจะแจ้งว่า ห้ า มปิดห นี้ทั้งหมดก่อนครบ 3 ปี ซึ่งความจริงแล้วเราสามารถใช้จุดนี้มาขอล ด ด อ ก เ บี้ ยกับธนาคารได้ โดยการที่เราแจ้งขอล ด ด อ ก เ บี้ ย หลังจากที่ผ่ อ นแล้ว 3 ปี ซึ่งหากเราไม่มีแผนที่จะรีไฟแนนซ์ ย้ า ยธนาคาร
ก็อาจหมายความว่ าเราจะให้ธนาคารอื่นนำเงิน มาโ ป ะ ห นี้ ก้อนนี้กับธนาคารแรก ซึ่งก็เท่ากับเราจะไปเป็นลูกห นี้ธนาคารอื่นแทน ซึ่งการทำแบบนี้ ธนาคารแรกจะพ ย าย ามที่จะต่อรองกับเรามากขึ้นด้วยความที่ต้องการที่จะรั ก ษ าลูกห นี้เอาไว้โดยการให้ Retention
วิ ธีติดต่อ ให้เราไปที่สาขาที่กู้เพื่อขอล ด ด อ ก เ บี้ ย ซึ่งการคุยที่จะทำให้ได้เปรียบก็คือขอล ด ด อ กเ บี้ ย ไปเลยตรงๆ โดยให้เหตุผลว่าเราเป็นลูกค้าที่ดีไม่มีประวัติค้ า งชำระ เมื่อผ่ อ น มา 3 ปีแล้วก็ต้องการขอล ดด อ ก เ บี้ ย ซึ่งในกรณีที่เราไม่ได้ตั้งใจที่จะรีไฟแนนซ์ เพราะไปตรวจสอบมาแล้วว่า ด อ ก เ บี้ ยโฮมโลนนั้นสำหรับลูกค้าใหม่มาแล้ว หล า ยธนาคารด อ ก เ บี้ ย นั้นถูกกว่าที่จ่ายอยู่
โดยตอนนี้ทางธนาคารจะสอบถามเราว่าเรามองธนาคารใดอยู่ ให้เราแจ้งชื่อไปสักหนึ่งชื่อซึ่งเป็นธนาคารที่ ด อ ก เ บี้ ย ต่ำที่สุดหรือต่ำกว่า โดยต้องเป็นข้อมูลจริงที่เราต้องไปค้นหามาเพื่อใช้ยืนยัน คุณจะได้สิทธิ์ในการต่อรองที่มากกว่า เพราะธนาคารจะพย าย ามโน้มน้าวใจให้คุณไม่เปลี่ยนธนาคาร
จากนั้นธนาคารจะมีข้อเสมอให้คุณ ซึ่งก็ยังแพงกว่าธนาคารที่คุณห ม า ย ต า เอาไว้ เพราะทางแบงค์รู้ว่าการเปลี่ยนธนาคารนั้นจะต้องมีค่าใช้จ่ายต่างๆเพิ่มขึ้น มา ซึ่งบางคน มองว่ายุ่งย า ก เมื่อล ด ด อ ก เ บี้ ย ให้แล้วแต่แพงกว่านิดหน่อย ก็ถือว่าโอเค
หลังจากที่คุณได้รับ ด อ ก เ บี้ ย ใหม่ที่ถูกลงแล้ว ให้คุณถามว่า ด อ ก เ บี้ ย ใหม่นี้เริ่มคิดเดือนไหน ซึ่งหมายถึงเราอาจไปติดต่อเรื่องนี้ก่อนจะครบ 3 ปีเต็มก็ยังได้ อาจก่อนหน้าครบกำหนดสัก 1-2 เดือน
อันนี้สำคัญมาก
ด อ ก เ บี้ ย ของธนาคารอื่นที่คุณไปค้นข้อมูลมา ให้นำมาคำนวณว่าในระยะเวลาอีก 3 ปีข้างหน้า จะผ่ อ นต่ำสุด อ ย่ า งไร ไม่ใช่ดูจาก 0เปอร์เซน เดือนแรกแต่หลังจากนั้นจะแพง โดยให้คำนวณดูในปีที่ 3 เพราะหลังจากนั้นทุก 3 ปี คุณจะสามารถใช้ช่องโหว่นี้มาเพื่อขอล ด ด อ ก เ บี้ ย กับธนาคารได้อีก ซึ่งยอ ดห นี้ต้องเกิน 1 ล้านบาท ในช่วงที่ไปขอล ดห นี้ แล้วแต่ธนาคารด้วย
อ ย่ า งไรก็ต าม บางธนาคารก็ดูท่าทีของเรา และจะประเมิณว่า ควรให้ ด อ ก เ บี้ ย ใหม่เท่าไหร่ ถ้าเราทำแบบไม่รู้ข้อมูลมาก่อนก็จะได้ล ดไม่เยอะ เมื่อเราพูดว่าจะรีไฟแนนซ์ ทางแบงค์ก็จะเช็คว่าเราเป็นห นี้บั ต รเ ค ร ดิ ตบ้างหรือเปล่าเพราะถ้าเราเป็นห นี้บัตรเครดิตก็อาจจะขอสินเชื่อได้ย า ก โดยทางธนาคารอาจดึง เ ก ม โ ด ย ไม่ล ดให้ หรือล ดให้เพียงเล็กน้อย เพราะรู้ว่า ความจริงแล้วเราไม่มีทางเลือ กนั่นเอง สิ่งที่ควรทำคือจัดการชำระห นี้บั ต ร เ ค ร ดิ ต ให้เป็นศูนย์ก่อนจึงไปติดต่อ
2 ได้รับเงินคืน
หากคุณโดนบังคับจ่ายเงินประกันตอนกู้ซื้อบ้าน และในสัญญาที่ทำเช่น ทำสัญญากู้ซื้อบ้าน 30 ปี แต่ผ่ อ นจริงแค่ 17 ปี เราสามารถติดต่อขอเคลมเงินประกันคืนได้ โดยบอ กกับธนาคารว่า คุณได้คุ้มครอง 17 ปีที่เหลืออีก 13 ปีไม่ได้มีการคุ้มครอง เพราะเมื่อเราผ่ อ นบ้านหมดแล้ว จึงขอเคลม 13 ปีที่เหลือคืนเป็นเงิน
อ ย่ า งไรก็ต ามเงินคืนนี้อาจไม่ได้มากมายอะไร อาจเพียงแค่ไม่กี่หมื่น ซึ่งเราสามารถเช็คกับธนาคารได้ว่า ยอ ดคืนเป็นเงินเท่าไหร่และทางแบงค์ก็อาจจะเสนอว่า ถ้าไม่รับเงินคืนก็จะคุ้มครองต่อ การคุ้มครองมักจะเป็นการได้เงินในกรณีที่เราเ สี ย ชี วิ ต ซึ่งส่วน มากธนาคารจะทำประกันแบบนี้ให้ในกรณีที่เรา เ สี ย ชี วิ ต ก่อนการผ่ อ นบ้านครบนั่นเอง ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นผู้รับประโยชน์จะเป็นผู้รับประโยชน์ใน สั ญ ญ า กร มธรรม์นั่นเอง
ซึ่งเราสามารถตัดสินใจได้เองว่าจะเลือ กเ ค ล ม เงินคืนหรือให้คุ้มครองต่อไป โดยจากประสบการณ์ตรงของเจ้าของเรื่อง ทำให้เขาได้รับเงินคืนจากการทำทั้งสองอ ย่ า งที่กล่าวมาข้างต้นนี้เป็นเงินหล า ยแสนบาททีเดียว
ที่มา krustory