การใช้รถบนท้องถนน แน่นอนว่าเราต้องพบเจออุ บั ติ เ ห ตุแน่นอน ไม่วันใดก็วันหนึ่ง เมื่อเกิดอุ บั ติ เ ห ตุขึ้น หล า ยคนก็มักจะทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ต้องเรียกใคร หรือเอกสารต่างๆ ต้องเตรียมอะไรบ้าง
ดังนั้นคนที่ใช้รถยนต์อยู่ทุกวัน ควรจะมีความรู้เรื่องทั่วๆไปของประกันรถยนต์เอาไว้บ้าง จะช่วยให้เราได้รับประโยชน์อ ย่ า งเต็มที่ในกรณีที่เกิดอุ บั ติ เ ห ตุที่ไม่คาดฝันขึ้น โดยก่อนจะขับรถแต่ละครั้งให้เรามีเอก สา รสำคัญติดตัวหรือติดรถเอาไว้เสมอ โดยเรามี 10 ข้ อเรื่องต้องรู้สำหรับคนที่ขับรถเป็นประจำ
1 การเรียกตำรวจ
หากเกิด อุ บั ติเ ห ตุ ขึ้ นแล้วไม่สามารถตกลงกับคู่กรณีได้ โดยไม่สามารถตัดสินได้ว่าใครเป็นฝ่ายถูกหรือผิ ด ให้เราแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยมาดูเหตุการณ์ และหากยังตกลงกันไม่ได้ ก็อาจต้องไปทำเรื่องต่อที่ สน. ต่อไป
2 เม า แ ล้ ว ขับ
การขับขี่รถในขณะที่มีปริมาณแ อ ล ก อ ฮ อ ล์ สูง โดยสูงเกินกว่าที่ก ฎ ห ม า ยกำหนด คือ 150 ขึ้นไป ทางบริษัทประกันจะไม่รับผิ ดชอบใดๆ ให้กับเรา แต่หากเกิดอุ บั ติ เ ห ตุในขณะที่มีแ อ ล ก อ ฮ อ ล์ใน เ ลื อ ดที่ 50 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์ ก็ยังจะได้รับความคุ้มครองต ามกรม ธ รรม์อยู่
3 หมายเลขตัวถังรถ
หากตัวเลขทะเบียนรถ สีรถ เลขตัวถัง รวมทั้งเรื่องของภ า ษีข าด แม้ว่าจะไม่ตรงกับเอกส า รรถ ทางประกันก็ยังต้องจ่ายค่าประกันความเ สี ยห า ยที่เกิดขึ้นให้กับเราอยู่ดี ขอแค่เพียงตัวเลขที่ตัวถังรถตรงกับตัวเลขในเอกส ารก็เพียงพอ ไม่ต้องกังวลว่าสีรถจะไม่ตรงหรือภาษีข า ดก็ต าม
4 การพกใ บ ขั บ ขี่
หากไม่มีใบขับขี่แล้วรถเกิดประสบอุ บั ติ เ ห ตุ ในกรณีของประกันชั้น 1 ทางประกันจะไม่ซ่อมรถให้กับเราแต่จะซ่อมให้กับคู่กรณีเท่านั้น แต่ถ้าเราเป็นฝ่ายถูก ไม่ว่าประกันชั้นไหนประกันก็จะจ่ายค่าซ่อมให้กับ ทั้งเราและคู่กรณี ทั้งนี้หากเราเป็ นฝ่ า ย ผิ ดและไม่มีใบขับขี่ด้วย ทางประกันก็จะไม่ คุ้ ม ค ร อ ง ค ว า ม เ สี ย ห า ย ใดๆที่เกิดขึ้นกับรถของเราแต่จะชดเชยให้กับของคู่ก ร ณีและบุคคลภายนอ ก
5 การจำป้ายทะเบียนคู่กรณี
หากเกิดอุ บั ติ เ ห ตุ โดยที่เราเป็นฝ่ายเ สี ยห า ยอ ย่ า งโดนชนแล้วหนี หากเราสามารถจำหรือถ่ายรูปเลขทะเบียนรถของคู่กรณีเอาไว้ได้ทัน เราสามารถใช้นำเข้าแจ้งความได้เลยโดยให้เราเตรียมเอกส ารของตัวเอง คือ ใบขับขี่ของเราเข้าพบเจ้าหน้าที่ที่สน.ใกล้ๆได้เลย เมื่อได้ใบแจ้งความมา ให้เราส่งใบแจ้งความให้กับบริษัทประกัน แต่ถ้าเราไม่ทราบเลขทะเบียนของคู่กรณี และหากประกันที่เราทำไว้เป็นประกันชั้น 1 ให้เราแจ้งว่ารถชนเข้ากับอ ย่ า งอื่นก็ได้เช่นกัน
6 เคลมอะไหล่
หากมีกรณีเคลมอะไหล่รถ เมื่อเราทำการเคลมอะไหล่แล้วต้องการเปลี่ยน เราก็ทำได้โดยเอารถของเราไปที่บริษัท เพื่อทำการตกลงกันเรื่องของราคาอะไหล่ชิ้นนั้นๆ ในส่วนที่เราต้องการเปลี่ยน ซึ่งทางบริษัทประกันจะจ่ายเงินในส่วนนี้ให้กับเรา
7 การเ ซ็ นเอกส า ร
ทุกครั้งที่ต้องมีการเซ็นเอกส า รใดๆก็ต ามโดยเฉพาะเรื่องของประกันร ถ ย น ต์ ให้เราอ่านเอกส า รให้ละเอียดและทำความเข้าใจก่อนเซ็นทุกครั้ง โดยให้ตรวจสอบรายละเอียดต่างๆให้ถูกต้องครบถ้วน
8 การเปลี่ยนสีรถ
เราสามารถใช้การเคลมประกันเพื่อเปลี่ยนสีรถได้ เพียงให้ทำการแข้งกับประกันว่าต้องการเปลี่ยนสีรถ ทางบริษัทจะทำการโอนเงินในส่วนค่าซ่อมมาให้ภายหลัง
9 ใบขับขี่โดนยึด
หากเราประสบอุ บั ติ เ ห ตุหรือมีเหตุที่ต้องแสดงใบขับขี่แต่ใบขับขี่ของเราโดนยึดไว้ เราสามารถใช้สำเนาหรือใช้ใบสั่งเพื่อแสดงตัวตนแทนใบขับขี่ตัวจริงได้ แม้ว่าจะหมดอายุแล้วก็ต าม โดยทางบริษัทประกันจะใช้เพื่อยืนยันตัวตนผู้ที่ได้รับความคุ้มครองและสามารถดำเนินเรื่องได้ต ามขั้นตอนปกติ
10 อุปกรณ์แต่งรถ
ในเรื่องของการจ่ายค่าทดแทนการซ่อมรถให้นั้น หากเป็นประกันชั้น 1 ทางประกันจะจ่ายให้เสมอ แต่หากเป็นกรณีรถแต่งหรืออุปกรณ์ตกแต่งพิเศษที่มีร า ค าแพง ให้เราทำการเตรียมเอกส า รเพิ่มเติมรวมทั้งใบเสร็จเพื่อทำเรื่องแจ้งประกั น เพื่อให้ทำการเพิ่มสลักหลังคุ้มครอง โดยทางบริษัทจะคิดเบี้ยเพิ่มให้เราในบางส่วน
10 ข้ อที่เรานำมาฝากกันในวันนี้จะช่วยทำให้เราสามารถต่อรองหรือพูดคุยกับประกันหรือคู่กรณีได้อย่ า งไม่เ สี ยเปรียบ เมื่อมีความรู้ความเข้าใจติดตัวอยู่บ้างก็จะช่วยให้เราสามารถใช้ประโยชน์จากการทำประกันได้อย่ า งเต็มที่ ไม่เ สี ยเปรียบเพราะช่องโหว่ของการทำประกันในหล า ยกรณี
ที่มา krustory