พ่อแม่รู้ไว้ สิ่งที่ไม่ควรทำกับลูก

สิ่งที่พ่อแม่ไม่ควรทํากับลูก ทำแล้วเกิดผลเ สี ยแก่ตัวเด็ก ถ้าพ่อแม่ไม่อย ากเ สี ยใจ ควรหยุดพฤติก ร ร มเหล่านี้ พฤติก ร ร มที่พ่อแม่ทำร้ า ยลูกแบบไม่รู้ตัว

1 นำเรื่องที่เคยทำผิ ดของลูกมากล่าวว่าซ้ำ ๆ

ผู้ใหญ่ส่วน มาก เวลาดุ เ ด็ ก ที่ทำผิ ด มักจะนำเรื่อง ของลูกที่เคย ทำผิ ดมาแล้วมา กล่าวว่าซ้ำ ๆ เหมือนเป็นการตอ กย้ำ ซ้ำเติมลูกเข้าไปอีก และร้อยละ 50 ที่แสดงอ า ก า ร แบบนี้จะหยุด ก็ต่อเมื่อ เ ด็ ก เกิดอ า ก า รเ สี ยใจ การทำแบบนี้ ถือเป็นการกระทำที่ ทำ ร้ า ย จิตใจลูกได้มาก และจะทำให้ เ ด็ ก เกิดความรู้สึก เ จ็ บ ใจ โ ก ร ธ จนทำให้ลูกไม่คิด จะปรับปรุงตัวให้เป็น เ ด็ ก ที่ดีขึ้นง่าย ๆ แน่

2 ใช้ความ รุ น แ ร ง กับลูก

หมดยุค การลงโ ท ษ โดยใช้ไ ม้เ รี ย วตีลูกเพื่อสร้าง ให้เป็นคนดีกันแล้ว เพราะการตีหรือใช้ความ รุ น แ ร ง กับ เ ด็ ก ไม่ได้สร้าง ความเปลี่ยนแปลง หรือปรับนิสัยลูก ให้เป็นไปต ามที่พ่อแม่คาดหวัง ได้แต่จะเป็นการซ้ำเติม ให้ลูกมีปมภายในใจ หนักขึ้นไปอีก ความ รุ น แ ร ง ระหว่างพ่อแม่ ท ะเ ล า ะกัน หรือความ รุ น แ ร ง ที่ทำต่อลูกล้วนเป็นสิ่งที่ไม่ดี ที่ยิ่งทำให้ลูกมีอ า ก า รต่อต้าน หนักขึ้นและจะกล า ยเป็นภาพจำ ทำให้ลูกกล า ยเป็น เ ด็ ก ก้ า ว ร้ าว ต่อไปได้ในอนาคต

3 เปิดเผยความลับ ของลูกให้คนอื่น

แท้จริงแล้วพ่อแม่คือ ที่ปรึกษาที่ดีที่สุดของลูก แต่ เ ด็ ก ในสังคม ไ ท ย ปัจจุบันกลับเลือ ก ปรึกษาเพื่อนก่อนพ่อแม่ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่า บางเรื่องพ่อแม่เห็นว่า ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรือเป็นเรื่อง ที่มองข้ามความสำคัญ ของลูกไป หรือแก้ปัญหาไม่ตรงจุด จนลูกมองว่าพ่อแม่ ช่วยอะไรไม่ได้ แต่สาเหตุหลักคือเ รื่องของความลับ ที่ เ ด็ ก ไม่อย ากให้คนจำนวน มาก

รู้หากมีเรื่องสำคัญนั้น ร้อยละ 80 ลูกมักจะเลือ กบอ กแม่ แต่แม่ก็อาจจะนำความลับนี้ ไปปรึกษาพ่อหรือคนอื่น ซึ่งการทำแบบนี้อาจทำให้ เ ด็ ก เกิดความรู้สึก ไม่ไหววางใจหรือเชื่อใจ ที่จะบอ กความลับตนเอง จึงมักทำให้เกิดปัญหาต ามมาทีหลังได้

4 มองข้ามการแสดงความคิดเห็นของลูก

ผู้ใหญ่มักแสดง ความไม่พอใจ ต่อ เ ด็ ก ที่ประพฤติตัวไม่ดี โดยอาจใช้ การ ดุด่ า ต่อว่า แต่ เ ด็ ก ร้อยละ 90 ไม่สามารถแสดงอ า ก า รไม่พอใจ ในตัวผู้ใหญ่ออ กมาได้ และหากกล่าวว่า ผู้ใหญ่ผิ ดก็ทำให้มองว่า เป็น เ ด็ ก ไม่ดีทำตัว ไม่เหมาะสม ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว พ่อแม่สามารถ เป็นแบบ อ ย่ า ง ให้ลูกในการแสดงออ ก และเปิดใจให้กว้าง ต่อ การฟังความคิดเห็น จากทุกคนในครอบครัว ยอมรับความผิ ดถูกและช่วยกัน แก้ปัญหาเพื่อให้ลูก กล้าแสดงออ ก และรู้จัก ที่จะยอมรับ ในสิ่งผิ ด อันจะเป็นรากฐาน ต่อ การใช้ชีวิตในสังคม เมื่อเขาเติบโตขึ้น

5 เมินเฉยกับการทำดีของลูกหรือรู้สึกยินดีแบบ ผ่ า น ๆ

ผู้ใหญ่มักมอง เห็นความสำเร็จเล็ก ๆ ของลูกเป็นเพียง เรื่องเล็กน้อย และให้ความยินดีแค่เพียง ๆ ผ่ า น แทนที่จะมองว่า ผลลัพธ์ในสิ่งที่ลูก ทำได้ดีนั้น จะเป็นการต่อยอ ดไป สู่ผลงานหรือความสำเร็จ ที่ดีในอนาคต ของเขาได้หาก ได้รับการส่งเสริม ที่ดีจากพ่อแม่ การเมินเฉย หรือ การยินดี แค่เพียง ชั่ ว ขณะอาจทำให้ ลูกรู้สึกไม่มั่นใจ และไม่ภาคภูมิใจ กับความสำเร็จ ที่เกิดขึ้นได้

6 ใช้ถ้อยคำ รุ น แ ร ง ด่ า ว่าลูก

การใช้ถ้อยคำที่ว่า กล่าวตักเตือน เมื่อ เ ด็ ก ทำผิ ด ไม่ใช่การด่ า ว่า ใช้คำ รุ น แ ร ง ส่ อ เ สี ย ด เพื่อให้ เ ด็ ก กลัว หรือหลาบจำ เพราะการทำแบบนี้ นอ กจากจะทำให้ ลูกรู้สึกไม่ดี ยังทำให้ เ ด็ ก ไม่มี ความสำนึกผิ ด หนำซ้ำยังคิด จะทำครั้งต่อไป แบบที่ไม่ทำให้โดนจับได้เพื่อจะ ได้ไม่โดนด่ า แถมยังเกิด การเลียนแบบ ถ้อยคำ ห ย า บ ค า ย จากผู้ใหญ่อีกด้วย

7 ลงโ ท ษเมื่อลูกทำผิ ด

พ่อแม่จำนวน มาก คิดว่าการลงโ ท ษ คือวิ ธีที่จะทำให้ เ ด็ กจดจำ และจะไม่ทำผิ ดอีก แต่กลับตรงกันข้ามวิ ธีนี้ จะทำให้ทำให้ลูกรู้สึกเ สี ยใจ กล า ยเป็น เ ด็ ก ที่เก็บกด และกลัวความผิ ดพลาดจน กล า ยเป็นคนข ี้ระแ ว งได้ วิ ธีที่ถูกต้อง ที่สุดคือ การปลอบ เมื่อลูกทำผิ ดพลาด อธิบายเหตุผลว่า ทำไมนี้คือสิ่งที่ลูกทำผิ ด จะมีผลเ สี ย อ ย่ า ง ไร พร้อมทั้งแนะนำ ช่วยกันหา วิ ธีคิดแก้ปัญหาให้กับลูก หรือใช้วิ ธีลงโ ท ษแ บบนุ่มนวล เช่น การลงโ ท ษแบบ time in หรือ time out

8 อารมณ์เ สี ยใส่ลูก

พ่อแม่ที่อารมณ์เ สี ย หรือ ท ะ เล า ะ กัน บางครั้งก็มักจะ อารมณ์เ สี ย ใส่ลูกโดยไม่รู้ตัว หรือพาลไปหาเรื่องลูก ลงใส่ลูกการทำ แบบนี้นอ กจาก จะเป็นการทำร้ า ยจิตใจลูกโดยง่ายแล้ว ยังทำให้ลูกรู้สึกว่า พ่อแม่ ไม่มีเห ตุผล จนไม่คิดจะ เชื่อถือได้

9 เอาความคิดของตัวเอง เป็นหลักและไม่ใจกว้างที่จะเข้าใจลูกตัวเอง

พ่อแม่อาจจะจด วันเดือนปีเกิดของลูกได้ รู้ว่าลูกชอบกินอะไรห รือไม่ชอบอะไร แต่การรู้จักลูก ในสิ่งเหล่านี้ ไม่ได้หมายความว่า คนเป็นพ่อแม่ จะเข้าใจในสิ่งที่ลูกคิดได้ หากคุณยังต้องการ ให้ลูกต้องทำนู่นนั่นนี่ ในแบบที่พ่อแม่คิด โดยไม่ถามความสมัครใจ หรือไม่ได้สังเกตอ า ก า ร สีหน้า ความสุข ของลูกเลย พ่อแม่ทุกคน อ ย า ก เลี้ยงลูกให้ดีที่สุด

แต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่า จะห้ามตี ห้ามดุไปเลยทีเดียว แต่ควร ทำแบบพอ ดี ไม่มากเกินไป ควรใช้เหตุผล มากกว่าอารมณ์ ใช้ความจำเป็น ให้มากกว่า ความต้องการเพื่อไม่เป็นการ ทำ ร้ า ย จิตใจลูก และสร้างลูกให้ เป็นคนดีต่อไปเพื่อ ความภูมิใจของคุณพ่อ คุณแม่เมื่อเขาเติบโตขึ้น มานะคะ

ที่มา t h.t h e a s i a n p a r e n t, khamsuks sabuyjaijung