ฟุ้งซ่าน คิดเยอะ คิดมาก แก้ด้วย 7 วิ ธี

ในวัยเรียน มัธยมของชายหญิงหล า ยคนนั้น จะเป็นช่วงวัยที่พบความรักได้บ่อยครั้ง ชอบเพื่อนร่วมห้อง หลงรักเพื่อนต่างชั้นเรียน ชอบรุ่นพี่หรือรุ่นน้อง เวลาเราเกิดความรักเราก็จะเกิดจิตใจฟุ้งเฟ้อสมองล่องลอยไปกับสิ่งที่เราหลงรักอยู่ อาจจะเป็นคนสวยประจำมหาลัยหรือคนหน้าต าดีประจำโรงเรียนก็ต าม รู้สึกตัวอีกทีก็อาจจะหมดคาบเปลี่ยนไปแล้ว เรียนไม่รู้เรื่อง รู้แต่ว่าในหัวคิดถึงแต่คนที่เราแอบรัก

พฤติก ร ร มแบบนี้เราจะเรียกกันว่า จิตใจฟุ้งซ่าน ฟุ้งเฟ้อคิดไปเรื่อยเปื่อย หากเราลองมาเปรียบเทียบในการทำงานก็คงจะมีบางคนที่เคยโดนเจ้านายดุด่ าว่าบ่นแล้วเกิดจิตใจฟุ้งซ่าน อาฆาตในใจ อย ากจะด่ าเจ้านายกลับ อย ากจะขึ้นตำแหน่งสูงเพื่อเอาคืน จินตนาการภาพวันที่เราได้ด่ าเจ้านายของเราเอง แต่พอรู้ตัวอีกทีนึง วันก็หมดไปทั้งวันแล้ว งานไม่ได้คืบหน้าเลย กล า ยเป็นว่าต้องเอางานไปทำต่อที่บ้านอีก

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบ คิดมาก ฟุ้งซ่าน ขี้กังวล กับการกระทำไปซะทุกเรื่อง จนทำให้ต้องลำบากใจอยู่บ่อยๆ เรามีแนวทางมาแนะนำที่จะช่วยให้คุณลด ความวิตกกังวล คิดมาก หรือ ฟุ้งซ่านลงได้

1. กำหนดช่วงเวลาสำหรับ การหยุดใช้ความคิด

การกำหนดเวลา หยุดใช้ความคิด ช่วยห้ามไม่ให้คุณหมกมุ่นกับปัญหาอ ย่ างใดอ ย่ างหนึ่งมากเกินไป เช่น การไม่คิดเกี่ยวกับเรื่องย ากๆ หลังเวลาสองทุ่มเพื่อ ไม่ให้มัน มารบกวนเวลานอนหลับมีคำแนะนำว่าให้แบ่งเวลาไว้ประมาณ 20 นาทีต่อวัน สำหรับการสะท้อนความคิดของตัวเอง ภายในยี่สิบนาทีนี้ ปล่อยให้ตัวเอง

วิตกกังวล ครุ่นคิด ฟุ้งซ่านได้เต็มที่ต ามต้องการ แล้วพอหมดเวลา ก็ให้เปลี่ยนไปทำสิ่งอื่นที่มีประโยชน์กว่า ถ้าคุณเริ่มคิดมากนอ กช่วงเวลาที่กำหนดไว้เมื่อไหร่ ก็ให้เตือนตัวเองว่า ค่อยเอาเก็บไปคิดในช่วงเวลาที่กำหนดดีกว่า

2. สังเกตความคิดของตัวเอง

ส่วนสำคัญที่สุดของการทำคือ การปล่อยให้ความคิดของคุณลอยผ่านไป แทนที่จะไปยึดติดอยู่กับมันหรือพย าย ามที่จะหยุดคิดมัน การฝึกสมาธิแบบเจริญสติ เป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณ หยุดหมกมุ่นกับเรื่องในอ ดีตได้ โดยให้คุณลองสังเกตการณ์ความคิดของตัวเอง ดูว่าตัวเองกำลังวิตกกังวลอยู่กับเรื่องอะไร และ จะแก้ปัญหา

ได้อ ย่ างไร แทนที่จะลงไปหมกมุ่นอยู่กับมันลองนั่งอยู่เฉยๆ แล้วสังเกตความคิดของตัวเองดู คุณจะรู้เลยว่าความคิดมันไร้ขอบเขตจริงๆ และเวลาที่คุณพย าย ามทำ ให้มันนิ่ง ก็มีแต่จะแ ย่ลงเท่านั้น แต่จิตใจของคุณจะสงบลงเองเมื่อเวลาผ่านไปสักพัก และ เมื่อจิตใจของคุณสงบแล้วมันก็จะมีที่ว่างในการรับฟังสิ่งที่ละเอียดอ่อนยิ่งขึ้น

3. เขียนความคิดของตัวเอง

อีกวิ ธีนึง ที่จะช่วยหยุดความคิดฟุ้งซ่านของคุณ ก็คือ การระบายให้กับคนที่มีมุมมองวิ ธีคิดแตกต่างไปจากคุณได้ฟัง หรือ จะใช้วิ ธีเขียนระบายความคิดของตัวลงไป ในกระดาษแทนก็ได้เพราะ การเขียนทำให้เราคิดอ ย่ างเป็นระบบขึ้น มาก ถ้าคุณเก็บความคิดเหล่านั้นไว้แต่ในหัว นอ กจากมันจะไปสุมกันจนเป็นภูเขามันยังทำให้คุณ วนกลับมาคิดเรื่องเดิมซ้ำอยู่อ ย่ างนั้นไม่จบสิ้น

4. เบี่ยงเบนความคิดของตัวเอง

ฟังดูง่ายๆ แต่ที่จริงการจดจ่อ กับสองสิ่งไปพร้อมกันนี่มันย ากนะ ลองออ กกำลังกายหรือเล่นเกมดูเมื่อรู้ตัวว่าตนเองกำลังคิดมากเพื่อสร้างสมดุลระหว่างอารมณ์ และร่า งกา ยผู้เชี่ยวชาญหล า ยคนก็เห็นด้วยกับวิ ธีนี้ คือ ให้หากิจก ร ร มที่เบี่ยงเบนความสนใจของคุณ ซึ่งควรเป็นกิจก ร ร มที่ใช้ทั้งร่า งกา ย ความคิด และ การร่วมเล่น กับผู้อื่น เช่น เทนนิส หรือ การเดินเที่ยวกับเพื่อนสักคน

5. โฟกัสที่สิ่งที่ทำได้ในปัจจุบัน

อีกหนึ่งวิ ธีแก้นิสัยคิดมากก็คือ เลิกคิดแล้วลงมือทำอ ย่ าไปโฟกัสในสิ่งที่คุณต้องทำ สิ่งที่ยังไม่ได้ทำ หรือ แม้แต่สิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว แต่ให้พุ่งความสนใจไปใน ที่สิ่งที่สามารถทำได้ในปัจจุบันก็พอ ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กแค่ไหนก็ต าม แล้วก็ลงมือทำมันซะ แบบนี้ทุกครั้งที่เรากังวลถึงปัญหาในเรื่องใดๆ เราก็จะสามารถทำให้ มันออ กมาเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น

6. เคารพความคิดเห็นของตัวเอง

เหตุที่คุณยังคงคิดมากจนไม่ยอมตัดสินใจส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะคุณไม่เชื่อว่าตัวเองจะตัดสินใจเลือ กสิ่งที่ถูกต้อง จงเรียนรู้ที่จะเคารพความคิดเห็นของตัวเอง ยิ่งคิดมากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งลังเลในความคิดของตัวเองมากเท่านั้น

7. คุณสามารถเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจที่ผิ ดพลาดได้

เป็นเรื่องปกติที่จะกังวลว่าคุณเลือ กงานผิ ด แต่งงานกับคนที่ไม่ใช่สำหรับตัวเอง หรือแม้แต่ขับรถกลับบ้ านผิ ดทาง แต่ความผิ ดพลาดก็ไม่ได้นำไปสู่ห า ยนะเสมอไป แถมยังเป็นโอกาสให้ได้เรียนรู้และเติบโตขึ้นด้วยคุณไม่ต้องกังวลกับความผิ ดพลาดเลย และ ให้เข้าใจไว้ว่าความคิดเห็นหรือความรู้ของคุณนั้น มันเปลี่ยนแปลง ได้เสมอต ามกาลเวลา แล้วคุณจะรู้สึกสงบและเป็นอิสระจากภายในอ ย่ างแท้จริง

ที่มา s u m r e j hbhelicopter  fahhsai