10 ข้ อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับตัวเอง

การที่เราเป็นคนดูน่าเชื่อถือ มันทำให้การใช้ชีวิตดูง่ายขึ้น มาในอีกระดับหนึ่ง เพราะคนเราถ้าไม่มีความเชื่อถือ เวลาทำอะไรผู้คนรอบข้างก็จะไม่ค่อยจะเชื่อ ไม่มีใครอบากจะคบหา ฉนั้นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับตัวเองจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ วันนี้เราจึงจะพามาดูว่า คนที่มีความน่าเชื่อถือนั้นต้องมีอะไรบ้าง

1. พูดตรง ๆ แต่พูดให้เป็น

จำไว้ว่า ยิ่งเราใช้คำพูดย าก ๆ และเยิ่นเย้อมากเท่าไร ก็ยิ่งสร้างความระแวงแคลงใจมากขึ้นเท่านั้น การพูดตรงนอ กจากจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกถึงน้ำใสใจ จริงและความแน่วแน่ของคุณแล้ว ยังทำให้เขาเข้าใจความคิดของคุณอ ย่ างชัดเจนอีกด้วย

ยกตัวอ ย่ างเช่น พ่อแม่ที่กล้าตักเ ตื อ นลูกในเรื่องสำคัญ ๆ เช่น เรื่องย าเ ส พ ติ ด การคบเพื่อน เรื่องเ ซ็ ก ซ์ ฯลฯ จะทำให้ลูกเข้าใจและเชื่อฟังมากกว่าพ่อแม่ที่สอนอ ย่ างกล้า ๆ กลัว ๆ

มากนัก ข้ อควรร ะวั งมีเพียงอ ย่ างเดียว นั่นคือ อย่ าพูดตรงเกินไปจนดูเหมือนไร้มารย าท เพราะต่อให้เป็นความจริง แต่ถ้าเป็นความจริงในแง่ลบ ก็ยังต้องหาเวลาและโอกาสที่เหมาะสมในการพูด

2. ให้ความสำคัญกับทุกคน

การตระหนักถึงความสำคัญของคนรอบข้างเป็นเรื่องเล็ก ๆ ที่มีพลานุภาพมาก หลักการง่าย ๆ คือขอให้เราปฏิบัติต่อผู้อื่นอ ย่ างที่อย ากให้ผู้อื่นปฏิบัติต่อเรา ส่วนอะไรที่เราไม่ชอบ ก็ไม่ทำสิ่งนั้นกับใครทั้งสิ้น เพียงเท่านี้ก็สามารถเก็บคะแนนความไว้ใจจากใครต่อใครได้แล้ว

3. สร้างความเข้าใจ โปร่งใส ไม่ห ม กเม็ด

ความไว้วางใจจะเกิดขึ้นได้ถ้าทุก ๆ ฝ่ายมีความเข้าใจในกันและกันอ ย่ างแท้จริง เช่น ถ้าเป็นเรื่องงาน หากเจ้าของบริษัท ผู้บริหาร และพนักงานฝ่ายต่าง ๆ มองเห็นเป้าหมายที่ตรงกัน รู้ว่าหน้าที่ของตน มีอะไรบ้าง และตั้งใจทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด การทำงานก็จะเป็นไปอ ย่ างราบรื่น

นอ กจากนี้ต้องพย าย ามทำทุกอ ย่ างให้โปร่งใส ไม่ปิดบัง อ ย่ างเรื่องในครอบครัว จริงอยู่ที่สามี – ภรรย าอาจไม่จำเป็นต้องบอ กทุกเรื่องของตนให้คู่ชีวิตรู้ แต่ถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้ องกับอีกฝ่ายโดยตรง หรือเป็นเรื่องที่คนที่เรารักอย ากรู้ เราก็ควรบอ กความจริงกับเขา หากทำได้สามี – ภรรย าก็จะไว้ใจกันและกัน และบ้านก็จะกล า ยเป็นบ้านที่อบอุ่น

4. กล้าสู้ความจริง

คนที่กล้าเผชิญหน้ากับความจริง จะได้รับความเชื่อถือและสามารถทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้ องได้อ ย่ างรวดเร็ว และเมื่อเกิดปัญหา แทนที่จะต้องแก้เองต ามลำพังก็จะมีคนช่วย

ยกตัวอ ย่ าง บริษัทที่ประสบภาวะข า ดทุน หากเจ้าของกล้ายอมรับความจริง ไม่กลัวเ สี ยหน้า ก็จะสามารถเรียกความเชื่อมั่น และไว้ใจจากผู้บริหาร และพนักงานได้มากกว่า ทุก ๆ ฝ่ายจะหัน มาช่วยกันแก้ปัญหา บรรย ากาศในองค์กรก็จะดีขึ้น และสามารถแก้ปัญหาได้เร็วขึ้นกว่าเดิม

5. แก้ไขในสิ่งผิ ด

อ ย่ างที่เรารู้กันดีว่า ความผิ ดเพียงครั้งเดียว อาจทำให้ความไว้วางใจที่อุตส่าห์สร้างสมมาพังครืนลงมาได้ในพริบต า แต่ในขณะเดียวกัน หากทำผิ ดแล้วรู้จักแก้ไข ก็สามารถฟื้นฟูความไว้วางใจได้เช่นกัน และอาจทำให้ได้รับความไว้วางใจมากกว่าเดิมด้วย

6. จริงใจและให้เกียรติผู้อื่น

ไม่ปากหวานต่อหน้า แต่นินทาลับหลัง และให้เกียรติผู้อื่นเสมอ ทุกครั้งที่คุณพูดถึงผู้อื่น ให้คิดว่าคนคนนั้นอยู่ที่นั่นกับคุณด้วย

7. พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ

ถ้าอย ากได้ความไว้วางใจจากคนรอบข้าง ต้องหมั่นเอาใจเขามาใส่ใจเราและไม่ทำผิ ดเรื่องเดิมซ้ำ ๆ สำหรับคนทำงาน จำไว้ว่าเจ้านายไม่ได้เฝ้ารอลูกน้องที่เก่งแบบฟ้าประทาน แต่ต้องการลูกน้องที่รู้จักพัฒนาตัวเองอ ย่ างต่อเนื่อง การพัฒนาตัวเองต้องคำนึง 2 เรื่อง คือ หนึ่ง เราต้องไม่เอาแต่เสาะแสวงหาความรู้ แต่ไม่กล้าตัดสินใจลงมือทำและไม่รู้จักสร้างผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน

และสอง ต้องไม่คิดว่าสิ่งที่เรารู้ใช้ได้กับทุกเรื่อง แต่จงเรียนรู้โดยไม่หยุดนิ่ง กล้าที่จะทดลองในสิ่งแปลกใหม่ และอย่ ากลัวความล้มเหลว เพราะคนเราเรียนรู้ได้ดีที่สุดจากความผิ ดพลาดของตัวเอง

8. ไว้ใจเขาก่อนจะให้เขาไว้ใจเรา

เรื่องจริงที่คน มักมองข้ามคือ เมื่อเรามอบความไว้วางใจในผู้อื่น เราก็มักจะได้รับความไว้ใจจากคนคนนั้นกลับมา สำคัญตรงที่เราต้องรู้จักเลือ กคนที่จะไว้วางใจ และเมื่อวางใจแล้วก็ต้องมอบอำนาจให้เขาอ ย่ างไม่มีเงื่อนไข ยกตัวอ ย่ างในครอบครัว ถ้าพ่อแม่ไว้ใจลูก ระบุความคาดหวังให้ชัดเจนและให้กรอบบางอ ย่ างแก่เขา ที่เหลือต้องยอมให้ลูกตัดสินใจเอง

ลูกจะเกิดความเชื่อมั่นและพย าย ามทำทุกอ ย่ างเพื่อไม่ให้พ่อแม่ผิ ดหวัง ตรงกันข้าม ถ้าพ่อแม่มองลูกเป็นเด็กตลอ ดเวลาและคอยสอ ดส่องลูกทุกฝีเก้า ลูกก็จะรู้สึกระแวงพ่อแม่ รวมทั้งไม่ไว้ใจตัวเองด้วย

9. ทำต ามสัญญาทุกครั้ง

การให้สัญญาก็คือ การผูกมัด ซึ่งในแง่หนึ่งคำสัญญาเป็นแรงผลักดันให้เราตั้งใจทำทุกอ ย่ างเพื่อรั ก ษ า สัญญา และหากรั ก ษ า สัญญาได้ต่อเนื่อง ความน่าเชื่อถือจะพุ่งขึ้นอ ย่ างรวดเร็ว

แต่ถ้ารั ก ษ า สัญญาไม่ได้ คะแนนความไว้ใจก็จะติดลบทันที ดังนั้นทุกครั้งก่อนจะให้สัญญา จึงต้องใคร่ครวญอ ย่ างรอบคอบว่า เราพูดในสิ่งที่ทำได้และสามารถทำในสิ่งที่พูดได้จริง ๆ

10. เป็นผู้ฟังที่ดี

ก่อนที่จะนำเสนอไอเดียของตัวเองหรือฟั น ธงในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ควรตั้งใจฟังความต้องการและเงื่อนไขของคนที่คุณพูดคุยด้วย เพราะถ้าคุณไม่สนใจฟังเขา เขาก็จะรู้สึกไม่ไว้ใจคุณ ดังนั้น คราวหน้าเมื่อสนทนากับใคร

ลองถามตัวเองว่า ฉันรับฟังคนคนนี้จริง ๆ หรือเปล่า จากนั้นวางความคิดของตัวเองไว้ข้าง ๆ แล้วเปิดใจฟังอีกฝ่ายอ ย่ างลึกซึ้ง การได้รับความไว้ใจทำให้มนุษย์รู้สึกอิ่มเอมใจยิ่งกว่าการเป็นที่รักมากมายมหา ศ า ล คุณว่าอ ย่ างนั้นไหมคะ

ที่มา Stephen  sabailey