ในย ามคับขัน เงินออมคือฮีโร่ที่ขี่ม้าขาวมาช่วยให้เรามีกิน มีใช้ ช่วยประคองตัวให้ผ่านช่วงเวลาที่เราข า ดรายได้ได้เสมอ เพราะฉนั้นเราควรจะหมั่นออมเงินกัน แต่ปัญหาที่มักเจอในหล า ยๆคนคือ การมีรายได้ที่ไม่พอ กับรายจ่ายอยู่แล้ว จะเอาที่ไหน มาเก็บ
สำหรับใครที่มีรายได้ไม่เยอะ อ ย่ างเช่น น้องๆ ที่เพิ่งเรียนจบ เพิ่งไปทำงานวันแรกๆ หรือคนที่ได้เงินเดือนยังไม่เยอะเงิน มาก เราสามารถทำอะไรได้บ้างเพื่อให้เงินเก็บของเราเพิ่มมากขึ้นหากอย ากจะมีเงินเก็บเยอะขึ้น
วันนี้เราก็มีวิ ธีการออมเงิน มาแ ช ร์ให้ทุกคนได้ลองไปทำต ามกัน ใครที่มีรายได้น้อย รายได้ไม่มากเท่าคนอื่น แต่อย ากจะมีเงินเก็บให้เยอะขึ้น ลองมาดูวิ ธีการออมเงินที่เราสรุปมาให้ค่ะ เก็บเงิน ออมเงิน วิ ธีเก็บเงิน วิ ธีออมเงิน รายได้น้อย เก็บเงินไม่เก่ง เงินเดือนน้อย
1. เก็บแบงค์ 50 หรือว่าเก็บแบงค์ใหม่
วิ ธีเก็บแบงค์ 50 หรือว่าการเก็บแบงค์ใหม่ ก็เป็นวิ ธีที่ค่อนข้างได้รับความนิยมค่ะ หล า ยๆ คนก็ทำกันอยู่ เพราะว่าแบงค์ 50 เป็นแบงค์ที่ไม่ได้มีมูลค่าเยอะเกินไปแล้วก็ไม่น้อยจนเกินไปเวลา
เก็บก็จะไม่ค่อยกระทบกับเงินในกระเป๋าเท่าไหร่ หรือบางคนก็เลือ กเก็บเป็นแบงค์ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นใบละ 20 100 500 หรือ 1,000 บางคนก็เลือ กจะเก็บทั้งหมดถ้าเป็นแบงค์ใหม่ที่ยังไม่มีรอยพับ ลองเก็บใส่กล่องไปเรื่อยๆ พอครบ 1 ปีก็ค่อยเอาออ กมาเช็คจำนวนเงินค่ะ
2. แยกบัญชี
บางคนใช้แค่บัญชีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือน เงินโ อ นออ ก เงินที่เราถอนออ กไปใช้จ่ายนู่นนี่ ซึ่งพอเราทำธุรก ร ร มทางการเงิน มากๆ เข้า เราก็จะไม่รู้เลยว่าสุดท้ายแล้วเรามีเงินเก็บเหลืออยู่เท่าไหร่ เงินเก็บของเราเพิ่มขึ้น มากน้อยหรือไม่
ดังนั้นเราจึงควรแยกบัญชีไว้เลยว่าเป็นบัญชีรายได้และบัญชีเงินเก็บ ซึ่งบัญชีรายได้ก็คือบัญชีเงินเดือนหรือบัญชีที่เรารับเงินเข้ามา สามารถเบิกถอนและโ อ น เงินได้ต ามปกติ จะทำบัตร A T M
คู่กับบัญชีนี้ด้วยก็ได้ค่ะ ส่วนอีกบัญชีคือเงินเก็บโดยที่บัญชีนี้ไม่จำเป็นที่จะต้องมีบัตร A T M เน้นการฝากเงินเข้าอ ย่ างเดียว ซึ่งบัญชีนี้จะทำให้เราเห็นว่ามียอ ดเงินเพิ่มขึ้น มาเท่าไหร่ เมื่อครบ 6 เดือนหรือ 1 ปี ก็มาลองปรับสมุด เช็คยอ ดเงินดูว่าเราเก็บออมไว้ได้เพิ่มมากเท่าไหร่แล้วค่ะ
3. หยอ ดกระปุก
อ ย่ าดูถูกพลังของเศษเหรียญค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเหรียญ 5 เหรียญ 10 เหรียญบ าท ถึงแม้ว่าจะมีมูลค่าน้อย แต่ว่าถ้าเราเก็บเยอะๆ ก็จะสามารถเอาไปใช้ประโยชน์ได้อ ย่ างมากมาย เพราะไม่ว่าจะมีมูลค่ามากน้อยก็ถือว่าเป็นเงินการที่เราเก็บแบบนี้อาจจะไม่ได้ทำให้เราร่ำร ว ยหรือว่ามีเงิน มากขึ้นใน 1 ปี แต่ว่าเป็นการฝึกนิสัยของการในการออม ฝึกนิสัยของการรู้คุณค่าของเงินทุกบ าททุกสต างค์ เพราะว่าไม่ว่าจะเล็กน้อยยังไงก็เป็นเงินค่ะ
4. เก็บก่อนใช้
สมการที่เราต้องจำและนำไปใช้ ก็คือ รายได้ – เงินออม = ค่าใช้จ่ายค่ะ สำหรับบางคนที่คิดว่าเดี๋ยวได้เงิน มาแล้วก็ใช้จ่ายไปก่อน เหลือเท่าไหร่ก็ค่อยเก็บ บอ กเลยว่ามีไม่กี่เปอร์เซ็นต์ของคนที่คิดแบบนี้จะออมเงินได้ค่ะ เพราะส่วน มากแทบจะไม่เหลือเงินไว้เก็บเลย
หรือถ้ามีเหลือก็จะน้อยมาก ต่อไปนี้ลองปรับวิ ธีใหม่ค่ะ ได้เงินเข้ามาไม่ว่าจำนวน มากหรือน้อย จะเป็นเงินเดือนหรือค่าอะไรก็ต าม หักไว้ก่อน 1 ส่วนเอาไปเก็บทันทีค่ะ ยกตัวอ ย่ าง เรามีรายได้จากการทำงาน 10,000 บ าท หักไปเก็บเลยทันที 1,000 บ าท แบบไม่มีข้ อต่อรองค่ะ เหลือเท่าไหร่ก็ค่อยเอาเงินส่วนนั้นไปบริหารจัดการ แบบนี้จึงจะทำให้เรามีเงินออมมากขึ้นค่ะ
5. แบ่งเงินใช้เป็นรายวัน
วิ ธีนี้เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นหรือว่าคนที่กำลังจะจริงจังกับการเก็บเงิน แต่ว่าหักห้ามใจตัวเองไม่ได้ค่ะ ซึ่งข้ อ ดีของวิ ธีนี้ก็คือสามารถทำให้เราจำกัดวงเงินในการใช้เงินของเราในแต่ละวันได้ ทำให้เราไม่ใช้เงินเกินตัว หรือว่าไม่ใช้เงินฟุ่มเฟือยค่ะ
วิ ธีการก็คือเราต้องคำนวณก่อนว่า ในแต่ละวันเราใช้เงินเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นค่าเดินทาง ค่ า อ า ห า ร และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันอื่นๆ เช่น ลองคำนวณมาแล้วว่าเราใช้เงินวันละ 300 บ าท ใน 1 อาทิตย์คิดเป็นเงินทั้งหมด 2,100 บ าท ก็เบิกเงิน มาเลย 2,100 บ าทแล้วก็แบ่งใช้เป็นวันไป แบบนี้ก็จะช่วยคุมไม่ให้เราใช้จ่ายเกินตัว ไม่ต้องเอาเงินไปซื้ออะไรที่มันไม่จำเป็น ถือว่าเป็นการบังคับตัวเองไปในตัวและฝึกวินัยในการใช้เงินไปด้วยค่ะ
ที่มา sabailey