วางแผนสำรองให้ชีวิตอ ย่ างไร หากอายุ 40 ถึง 50 ต้องมาตกงาน

การทำงานย่อมมีวันหมดอายุงาน ยิ่งอายุมากขึ้นการถูกจ้างงานก็เริ่มถูกลดลง และสิ่งที่เราต้องทำคือ การวางแผนให้กับชีวิต เพื่อไม่ให้เรานั้นลำบากถ้าต้องมาตกงานตอนที่อายุมากๆ วันนี้เราเลยมีบทความการวางแผนให้กับชีวิตมาฝากกัน

ทุกที่เวลาติดป้ายรับสมัครงาน จะมีลิสต์คุณสมบัติของผู้สมัครที่ต้องการ รวมถึงคุณวุฒิ ประสบการณ์การทำงาน และที่ข า ดไม่ได้ คือ อายุ ต ามป้ายประกาศรับสมัครงานจะระบุช่วงอายุที่ต้องการมาด้วย ซึ่งส่วนใหญ่มักจะรับไม่เกิน 40 ปี และถ้ายิ่งอายุมากเกิน 40 ปีขึ้นไป จะยิ่งมีตัวเลือ กน้อยลง

แล้วแบบนี้ ถ้าเราอายุเกิน 40 ปี แถมยังมาตกงานตอนอายุเยอะ ๆ คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาใหม่ ถ้าไม่ใช่สายงานที่เฉพาะทาง และเรามีความสามารถจริง ๆ คนรุ่นใหม่ก็จบออ กมาทุกปี นอ กจากเราจะต้องไปแย่งงานจากคนรุ่นเดียวกันแล้ว ยังจะต้องไปแข่งขันกับหนุ่มสาว

ที่มีพลังกายเหลือล้นกว่าเราเป็นไหน ๆ เรียนจบมาได้ทำงาน บางคนก็ยังไม่เคยคิดหรือวางแผนไว้เลย ว่าถ้าต้องตกงาน ตอนอายุมาก ๆ จะทำอ ย่ างไรดี รู้แค่ว่ามีความสุขกับการทำงานถึงสิ้นเดือน แล้วรอเงินเดือนออ ก จากนั้นก็ไปสังสรรค์ ใช้ชีวิตต ามกระแสเหมือนคนส่วนใหญ่ทั่ว ๆ ไป โบนัสออ ก ดื่มฉลองทุกสุดสัปดาห์ หาที่เที่ยววนไป จะผ่านไป 10 ปี 20 ปี ก็ยังคงใช้ชีวิตแบบนี้ จนลืมไปว่าอายุเรามากขึ้นทุกวัน

ลืมเตรียมใจไว้ว่า ถ้าตกงานตอนอายุ 40-50 จะไปทำอะไร อ ย่ าคิดว่ามีงานที่มั่นคงแล้ว ใช้ชีวิตสบายชิว ๆ ไม่ต้องคิดวางแผนสำรอง ตัวอ ย่ างก็มีให้เห็นแล้ว โ ร ค ร ะ บ า ด ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดก็เกิดขึ้น แล้วอาชีพที่ดูมั่นคง เป็นที่ใฝ่ฝันของใครหล า ย ๆ คน ตอนนี้ก็ยังต้องตกงานกันระนาว

การมีร า ยได้ทางเดียว เป็นการใช้ชีวิตที่ประมาท และจะทำให้ชีวิตต้องเจอ กับความลำบากในอนาคตได้ง่าย หากต้องตกงานจริง ๆ ไม่ว่าจะตอนอายุยังน้อยหรือจะแก่แล้ว ถ้าเรามีร า ยได้ทางที่สองสำรองไว้ ก็จะเป็นเบาะรองให้เราได้ ในวันที่เราล้ม ถึงล้มก็ไม่เ จ็ บมาก

เ พ ร า ะฉะนั้น เราจึงต้องพัฒนาตัวเองอยู่ตลอ ดเวลา ศึกษาหาความรู้ใหม่ ๆ ให้ทันโลก ทันกระแส อ ย่ าปล่อยเวลาทิ้งไปกับเรื่องไร้สาระจนเกินไป หันกลับมาสนใจชีวิตของเราเองจะดีที่สุด ให้รู้ว่า แต่ละวันต้องทำอะไร อนาคตอย ากจะเป็นแบบไหน ให้ลงมือทำไว้ตั้งแต่วันนี้ซะ

ที่มา b i t c o r e t e c h  na-aan