ฝึกตนให้เป็นคนสบายๆ แล้วชีวิตจะมีควาสุขมากขึ้น

บางครั้งการที่ชีวิตเราจะมีความสุขได้ก็ขึ้นอยู่ที่จิตใจความคิดของเรา ถ้าหากเราทำความเข้าใจกับชีวิตได้มองโลกเป็นแง่บวกเข้าไว้จิตใจเราก็จะไม่ขุ่นหมองและใช้ชีวิตได้อ ย่ างสบายใจ วันนี้เราเลยจะพามเพื่อนๆมาฝึกเป็นคนสบายๆ คิดบวกเข้าไว้ ชีวิตจะได้มีความสุขมากขึ้นกว่าเดิม

ฝึกให้ตัวเองเ สี ยสละ และยอมเ สี ยเปรียบ

หมายความว่า การที่คนๆ หนึ่งยอมเ สี ยเปรียบผู้อื่นบ้าง เป็นเรื่องจำเป็นใครก็ต ามที่บ้ าความถูกต้อง บ้ าเหตุบ้ าผล ไม่ยอมเ สี ยเปรียบอะไรเลย ไม่ช้า คนๆ นั้นก็จะเป็น บ้ า ส ติ แ ต ก กล า ยเป็นคนที่ถูกทุกอ ย่ างแต่ไม่มีความสุข

เ พ ร า ะต้องสู้รบกับคนรอบข้างเต็มไปหมดเพื่อความถูกต้องที่ตนเองยึดมั่นถือมั่นซึ่งส่วนใหญ่ มันก็เป็นเพียงความถูกต้องที่กิเลสของตัวเองลากไปไม่ได้ เป็นเรื่องที่ถูกต้องตรงธรรมอ ย่ างแท้จริง ดังนั้น การยอมเ สี ยเปรียบ การให้ผู้อื่นด้วยความเบิกบาน จึงเป็นสิ่งจำเป็น มากกว่าที่เราคิดกัน

มีแ ร งให้เอาแ ร งช่วย มีเ งิ นให้เอาเ งิ นช่วย มีความรู้ก็เอาความรู้เข้าไปช่วยในหนึ่งวันเราควรถามตัวเองว่า วันนี้เราได้ช่วยใครไปแล้วหรือยังเราได้เ สี ยเปรียบใครหรือยัง ถ้าคำตอบคือ ยัง ให้รู้เอาไว้เลยว่า เราเป็นอีกคนที่มีแนวโน้มจะหาความสุขได้ ย ากเต็มที

ฝึกให้ตัวเองพ้นไปจากความเป็นขี้ ข้ า ของเ งิ น

หมายความว่า เราต้องหัดพอใจกับ สิ่งที่ตัวเองมีอยู่ รถยนต์ใช้อะไรอยู่ ก็หัดพอใจกับมัน นาฬิกาใช้อะไรอยู่ก็หัดพอใจกับมันเสื้อผ้าใช้อะไรอยู่ ก็หัดพอใจกับมัน การที่คนเราจะเลิกเป็นขี้ ข้ า เ งิ นได้ต้องเริ่มจากการรู้จักเพียงพอก่อน เมื่อรู้จักพอแล้วก็ไม่ต้องหาเ งิ น มาก

เมื่อไม่ต้องหาเ งิ น มากชีวิตก็มีโอกาสทำอะไรที่มากกว่าการหาเ งิ นการยุติความเป็น ขี้ ข้ า ของอำนาจเ งิ นนี้ พูดง่ายแต่ทำย าก แต่ก็ต้องทำเ พ ร า ะถ้าไม่ทำชีวิตทั้งชีวิตของเรา ก็จะเป็นชีวิตที่เกิดมาแล้ว ต า ยไปเปล่าๆ ด้วยเหตุที่ว่า ใช้เวลาหมดไปกับการสะสมเ งิ นทองที่เอาไปไม่ได้แม้แต่บ า ทเดียว

ฝึกตัวเองให้เป็นแสงสว่างในที่มืด

หมายความว่า ตรงไหนที่มัน มืดเราควร ไปเป็นด ว งไฟส่องทางให้เขา ตรงไหนที่ไม่มีคนช่วย เราควรไปทำ เช่น ลองหาเวลาไปรับประทานอาห าร ร้านที่ไม่มีลูกค้าเข้า อ ย่ ามุ่งแต่เรื่องกิน ให้การกินของเรามันเป็นการช่วยเหลือผู้อื่นบ้าง ร้านเขาไม่มีลูกค้า แล้วเราเข้าไปนั่ง มันไม่ใช่แค่เ งิ น แต่มันหมายถึงกำลังใจ

อ ย่ าคิดถึงการบริการที่ดีที่สุดอ ย่ าคิดถึงรสชาติของอาห าร ให้มากนัก ให้คิดว่า เรากำลังเป็นผู้ให้ เดินเข้าร้านหนังสือ หนังสือเล่มไหนเก่าที่สุดเราอ่ านเนื้ อ หาแล้วสนใจ หยิบมันขึ้น มาแล้วจ่ายเ งิ นนำมันกลับบ้าน เหลือหนังสือเล่มสวยๆ ไว้ให้คนอื่นๆ ได้ซื้ อ ได้อ่ าน

อ ย่ าไปบ้ ากับการเก็บสิ่งที่ดีที่สุดอ ย่ าไปบ้ ากับการปรนเปรอสิ่งที่ดีที่สุดให้ตนเอง แต่ให้เน้นจิตใจที่ดีที่สุด ใช้วัตถุ ใช้เ งิ นเป็นเครื่องมือในการซื้ อ จิตใจดีๆ สูงๆ สะอาดๆ ของเรากลับคืน มา วัตถุเป็นเรื่องไม่จีรัง แต่จิตใจดีๆ นั้นเป็นทั้งหมดของชีวิต เป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องรู้จักรักษ า ดูแลเอาไว้ไม่ให้เกิดความเ สี ยห า ย

ฝึกให้ตัวเองรู้ธรรมชาติว่า อะไรๆ ก็ผ่านไปเสมอ

หมายความว่าเวลามีความสุข ก็ให้รู้ว่าเดี๋ยวความสุขมันก็ผ่านไป เวลามีความทุ ก ข์ ก็ให้รู้ว่าเดี๋ยวความทุ ก ข์ก็ผ่านไป เวลามีสถานการณ์แ ย่ ๆ เกิดขึ้น ก็ให้รู้ทันว่าเรื่องราวเหล่านี้ มันไม่ได้อยู่กับเราจนวัน ต า ย ดังนั้น อ ย่ าไปเ สี ยเวลาคิดมากอ ย่ าไปย้ำคิดย้ำทำอ ย่ าไปหลงยึดไว้เกินความจำเป็น ให้รู้จักธรรมชาติของมัน การยึดติดกับวัตถุ บุคคล หรือความรู้สึกจนเกินเหตุ คือปัจจัยสำคัญอันดับต้นๆ ที่ทำให้คนเราเกิดความทุ ก ข์ ตรงนี้เป็นสิ่งที่เราต้องรู้ และต้องฝึกฝนตนเองให้เป็นคนปล่อยวางอะไรง่ายๆ เข้าไว้

ฝึกให้ตัวเองเป็นคนนิ่งๆ หรือไม่ก็พูดในสิ่งที่ดีๆ

หมายความว่า ถ้าอะไรไม่ดี ก็อ ย่ าไปพูดมาก ไม่ว่าสิ่งนั้นจะถูกหรือผิ ด แต่ถ้ามันไม่ดี เป็นไปได้ก็ไม่ต้องพูดเ พ ร า ะการพูดหรือ วิ จ ารณ์ ในทางเ สี ยห า ยนั้น มีแต่ทำให้จิตใจตนเองตกต่ำและขุ่น มัว คนที่พูดจาไม่ดีแม้ว่าคำพูดจะดูฉลาดหลักแหลมเพียงไรมันก็คือความโ ง่ชนิดหนึ่ง คนที่พูดแต่เรื่องไม่ดีของคนอื่นนับเป็นคนหาความสุขได้ ย ากนัก

ฝึกให้ตัวเองเป็นนักไม่สะสม

หมายความว่า การสะสมอะไรสักอ ย่ างนั้น เป็นภาระไม่มีอะไรที่เราสะสมแล้วไม่เป็นภาระยกเว้นความดี นอ กนั้นล้วนเป็นภาระทั้งหมดไม่มากก็น้อย ในแง่ของความสุข เราไม่จำเป็นต้องสะสมอะไรเพื่อให้มีความสุข วิ ธีมีความสุขของคนเรามีมากมายหล า ยอ ย่ าง และเราไม่ควรเลือ กวิ ธีที่สร้างภาระให้กับตนเอง

ฝึกให้ตัวเองเข้าใจเรื่องของการนิ น ท า

หมายความว่าเราเกิดมาก็ต้องรู้ตัวว่า เราต้องถูกนิ น ท าแน่นอน ดังนั้น เมื่อถูกนิ น ท าขอให้รู้ว่า เรามาถูกทางแล้ว แปลว่า เรายังมีตัวตนอยู่บนโลก คนที่ชอบเต้น แร้ ง เต้นกา กับคำนิ น ท าก็คือคนไม่รู้เท่าทันโลกแม้แต่คนเป็นพ่อแม่ก็ยังนิ น ท าลูก

คนเป็นลูกก็ยังนิ น ท าพ่อแม่ นับประสาอะไรกับคนอื่นถ้าเราห้ามตัวเองไม่ให้นิ น ท าคนอื่นได้เมื่อไหร่ ค่อยมาคิดว่า เราจะไม่ถูกนิ น ท า ขอให้รู้ว่า คำนิ น ท าคือของคู่กับมนุษย์โลก มีมาช้านานแล้ว แม้แต่พระพุทธเจ้า นักบุญ คนที่สร้างคุณงามความดีไว้กับโลกมากมายยังถูกนิ น ท า แล้วเราเป็นใครจะไม่ถูกนิ น ท าดังนั้น

อ ย่ าไปใส่ใจให้มาก ถ้าอะไรที่ดีเก็บไว้ปรับปรุงตัว อะไรที่ไม่ดี ทิ้งมันไว้ไม่ต้องไปตีคราคาสร้างค่าให้คำพูดไร้ส าระ ส่วนตัวเราเอง ก็สมควรอ ย่ างยิ่งที่จะต้องฝึกตนเองให้เป็นผู้ไม่นิ น ท าคนอื่นเช่นกัน

ฝึกมองตัวเองให้เล็กเข้าไว้

หมายความว่าจงเป็นคนตัวเล็ก อ ย่ าเป็นคนตัวใหญ่จงเป็นคนธรรมดา อ ย่ าเป็นคนสำคัญเวลามีอะไร เกิดขึ้นกับเราอ ย่ าไปให้ความสำคัญกับตัวเองมากอ ย่ าปล่อยให้จิตใจวนไปวน มากับความรู้สึกของตัวเอง เหมือนจมอยู่ในอ่างลองเปิดต า มองไปรอบๆ แล้วมองให้เห็นว่า คนบนโลกนี้มีมากมายแค่ไหนตัวเราไม่ได้เป็นศูนย์กลางของโลก ดังนั้น ก็อ ย่ าไปให้ความสำคัญกับมัน มากนัก ทุ ก ข์บ้าง ผิ ดบ้าง เรื่องธรรมดา

ฝึกให้ตนเองเป็นคนสบายๆ

หมายความว่า อ ย่ าไปยึดติด กับความสมบูรณ์แบบเ พ ร า ะความสมบูรณ์แบบมันไม่มีจริงมีแต่คนโ ง่เท่านั้นที่มองว่า ความสมบูรณ์แบบมีจริงไม่ว่าจะทำอะไรก็ต าม หัดเว้นที่วางไว้ให้ความผิ ดพลาดบ้าง ทุกอ ย่ างไม่จำเป็นต้องไร้ที่ติ การผิ ดบ้างถูกบ้างเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต เพียงแต่เราต้องรู้จักปรับปรุงตนเอง ไม่ให้ผิ ดพลาดบ่อยๆ ซ้ำๆซากๆ

ที่มา คุณพศิน อินทรวงศ์ yindeeyindee