กว่าจะเลี้ยงลูกคนๆหนึ่งให้โตมาได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย นอ กจากจะใช้เวลาหล า ยปีแถมยังต้องเจอลูกมีนิสัยที่ดื้ ออีก ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ทำให้หล า ยๆคนต้องใช้วิ ธีรุนแรงกับลูก วันนี้เราเลยจะพามาดูการเลี้ยงลูกอ ย่ างไรให้เขาเชื่อฟัง เป็นคนว่านอนสอนง่าย
ยิ่งลูกโตขึ้น การที่เราจะหวังลูกให้เป็นเด็ กเชื่อฟังสอนง่าย เป็นเรื่องย ากมาก เพราะลูกเริ่ม มีความคิดเป็นของตัวเอง บางทีก็สนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามากกว่าบางครั้งลูกก็ไม่อย ากคุย ไม่อย ากทำ ในสิ่งที่พ่อแม่ต้องการสักเท่าไรนักฉะนั้นจึงใช้วิ ธีทำหูทวนลม เพิกเฉยต่อคำพูดของพ่อแม่ และมันอาจนำมาสู่ การมีปัญหากันได้
1 หาว่าอะไร ที่ทำให้เขาไม่เชื่อฟัง
หากลูกเป็นเด็ กที่ไม่เชื่อฟัง บางครั้งอาจเป็นเพราะกำลังโก รธ เ สี ยใจหรือต้องการให้พ่อแม่เอาใจ สิ่งที่ควรทำ คือ พูดคุยและ หาคำตอบ ว่าเพราะอะไรทำไมลูกไม่เชื่อฟังและบอ กรักลูกให้ลูกไว้ว่า มีพ่อแม่อยู่ข้างๆ เสมอนะ และทั้งนี้ควรสังเกตทัศนคติวิ ธีคิดด้วย รวมถึงการพูดของลูก ก็เพื่อที่จะเข้าใจลูกมากขึ้นด้วยนั่นเอง
2 สอนด้วยคำพูด สายต าแห่งความรัก
เมื่อไรที่ลูกทำผิ ด คุณอาจจะทนไม่ได้ที่จะตะคอ กลูก จากคำพูดแร งๆ ของคุณทั้งยังไม่สนใจฟังในสิ่งที่ลูกอย ากอธิบายด้วย และการขึ้นเ สี ยง การตะคอ กนั้น มันอาจทำให้ลูกสงบลงได้ก็จริงนะ แต่ทว่าในอนาคต ลูกก็จะทำอีกอยู่ดี ฉะนั้นแล้ว สิ่งที่ควรทำ คือ เริ่มจากดึงความสนใจลูกด้วยการ เรียกชื่อลูกใช้คำพูดง่ายๆ ให้ลูกทบทวนในสิ่งที่ทำ ใช้น้ำเ สี ยงที่หนักแน่น แต่ไม่ดุดัน
ให้คุณลองเปลี่ยน เป็นบอ กทางป้องกั น แก้ปัญหาจะดีกว่านะ นอ กจากคำพูดกับน้ำเ สี ยงแล้ว ภาษากาย ก็มีส่วนสำคัญที่จะทำให้ลูกรับฟังมากขึ้น พูดกับเขาดีๆ พูดด้วยสายต าแห่งความรัก แล้วคุณจะเข้าใจลูกมากขึ้น
3 สอนด้วย การมีข้อตกลง ระหว่างกัน
แต่ทว่านะเด็ กทุกคน ก็มีอะไรที่ชอบ ที่ไม่ชอบของตัวเองเช่นกันนะ และบ่อยครั้ง ที่คุณให้ลูกทำสิ่งที่ไม่ชอบ นานจนลูกเริ่มไม่เชื่อฟัง และสิ่งที่ควรทำนั้น คือ เด็ กวัย 2-3 ขวบ เป็นวัยแห่งการต่ อต้ านฉะนั้น ลองให้ข้อเสนอ เพื่อเป็นข้อตกลงร่วมกันดูสิ เพื่อลดการโต้เถียงหรือ การชวนทะเล า ะลงได้
4 สอนด้วยการ ใช้เ ท ค นิ คแบบเข้าใจง่ายๆ
เพราะเด็ กอาจจะยังแบบว่า ฟังประโยคย าวๆ พร้อมกันไม่เข้าใจ สิ่งที่ควรทำนั้นคือใช้เ ท ค นิ คสอนเขา ให้จำง่ายขึ้น เช่น มีมือเอาไว้ช่วย ไม่ใช่เพื่อเอาไว้ติ หรือ พูดให้ตื่นเต้นเช่น วันนี้ทำอะไรที่โรงเรียนบ้ าง หลี กเลี่ ยงคำว่า ไม่
หรือ ห้าม เพราะทำให้ลูกไม่อย ากทำต าม อ ย่ างเช่น ห้ ามดื้ อ ก็ควรเปลี่ยนเป็น แม่ชอบลูก ตอนที่เชื่อฟังแม่ที่สุดเลยนะ นอ กจากนี้ พ่อแม่อาจเปลี่ยน มาใช้การให้คะแน น เพื่อให้ลูกมีเป้าหมาย ในการเชื่อฟังมากขึ้นก็ได้นะ
5 สอนลูก จากการเป็นแบบอย่ าง
ในช่วงวัยเด็ ก เขามักจะลอ กเลียนแบบ พฤติก ร ร มของคนใกล้ชิดและไม่สามารถแยกแยะได้ ว่าอะไรไม่ควร อะไรควร มันจึงทำให้หล า ยครั้งลูกเผลอเลียน พฤติก ร ร มที่มันไม่ดีของผู้ใหญ่ เมื่อถูกตำหนิและต่อว่าลูกจึงไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อแม่ยังทำได้เลยล่ะและการทำให้ลูกเกิดความสงสัย และพ่อแม่ไม่อธิบายนั้น มันก็เป็นสาเหตุ ที่ทำให้ลูกเริ่มไม่เชื่อฟังพ่อแม่ และสิ่งที่ควรทำนั้น คือ ลูกเรียนรู้จาก การกระทำได้ดีกว่าคำพูด เพราะงั้น คุณพ่อคุณแม่ต้องเป็นตัวอย่ างให้ลูกเห็น ว่าอะไรทำได้ อะไรไม่ควรทำ
6 ฟังสิ่งที่ ลูกจะบอ ก
เพราะบางครั้ง สิ่งที่พ่อแม่คิด มันก็ไม่ได้ถูกต้องเสมอไปหรอ กนะ เพราะเด็ กแต่ละคน พวกเขาก็มีความคิดเป็นของตัวเอง และสิ่งที่ควรทำ คือ ถามให้รู้ว่าลูกคิดอะไรทำไปเพื่ออะไร และมีอะไรอยู่ในใจ จากนั้นจงตั้งใจฟังสิ่งที่ลูกพูด เพื่อช่วยให้ลูกผ่อ นคล า ยความกังวลได้
7สอนลูก ใช้ความคิด แก้ปัญหาด้วยตัวเองได้
เพราะประโยคคำสั่งนั้น มันก็ทำให้ลูกรู้สึกว่า ตัวเองไม่ได้เรื่องเอาซะเลยนะทำอะไรก็ไม่ดี ทั้งนี้มันก็ส่งผลต่อให้ลูก ไม่มีความเชื่อมั่นในตัวเองซะงั้น ทั้งยังอาจกล า ยเป็นคนไม่มั่นใจไปเลยไม่กล้าที่จะคิดริเริ่มอะไรใหม่ๆ สิ่งที่ควรทำนั้น คือ ต้องฝึกให้ลูกใช้ความคิดและแก้ปัญหาด้วยตัวเองเช่น ไหนลูกลองคิดสิว่าจะเอาตุ๊กต าตัวนี้ ไปเก็บไว้ไหนดีนะ
และนอ กจากนี้ควรหากิจก ร ร มสนุกๆทำร่วมกันกับลูกเมื่อคุณพ่อคุณแม่ เห็นลูกทำไม่ถูกต้อง จะได้สอนลูกให้คิดแก้ปัญหา แทรกเรื่องของคุณธรรม จริยธรรมไปได้ด้วย โตมาเขาจะได้เป็นคน มีคุณภาพ
ที่มา profession-j55