ข้ อ คิดถึงพ่อแม่ที่ไม่อย ากให้ลูกลำบาก

การที่เราจะรักลูกก็ไม่แปลกหรอ ก แต่เราก็ต้องรักให้ถูกทาง ซึ่งการสอนลูกในยุคสมัยนี้ หล า ยคนก็ให้ลูกอยู่อ ย่ างสุขสบาย เป็นเหมือนดั่งไข่ในหินเลย เพราะว่ากลัวลูกจะลำบาก กลัวลูกจะได้รับ อั นต ร า ย อย ากให้ลองดู 2 เรื่องจริง ที่พ่อแม่ยุคนี้ จะช่วยให้ข้ อคิดอะไรหล า ยอ ย่ างเลย เพราะการเลี้ยงลูก ให้อยู่สบายเกินไป มันอาจจะเป็นผลร้า ยต่อตัวลูกก็ได้ มีเรื่องของ 2 ครอบครัวให้ดูเปรียบเทียบกัน

ครอบครัวที่ 1 พ่อแม่เป็นห นี้เกือบ 20 ล้าน

ครอบครัวนี้ พ่อทำงานหนัก เพื่อจะได้พาครอบครัวอยู่ได้ และหาเงิ นปลดห นี้ ในส่วนลูกชายนั้น กำลังเข้าเรียน มหาลัย พอตกบ่ายก็เข้าห้องเล่นเกม กินข้าวเที่ยวกับเพื่อน พ่อแม่เองก็เเก่ลงไปทุกวัน ส่งของให้ลูกค้ าไม่ทัน เลยโทรบอ กให้ลูกชายมา ช่วยพ่อแต่ลูกกลับตอบพ่อเขาว่า ทำไมป๊า

ไม่รับสมัครคนงาน แล้วเขาก็ตัดสายไป และนั่งเล่นเกมต่ออ ย่ างสบายใจ โดยไม่ได้ใส่ใจเลยว่าพ่อจะทำงานหนักแค่ไหน และแล้ววันหนึ่งพ่อ ก็จากไปโดยยังทิ้งภาระห นี้เอาไว้ให้ แล้วแม่ก็นำเขาไปฝากกับญาติ ส่วนแม่ก็ละทางโลกไปบวชชี ตอนนี้เขาไม่เหลืออะไรแล้ว บ้านหลังใหญ่ ที่เคยอยู่ก็ไม่มี เพราะธนาคารยึดหมดแล้ว

รถที่มีอยู่อะไรขา ยได้ก็ขา ย เพื่อเป็นค่าเทอม แต่สุดท้ายก็ไม่มีเงิ น เรียนจนต้องลา ออ กจากมหาลัยกลางคัน เขาเลยต้องหัน ไปขอความช่วยเหลือเพื่อนๆ เพื่อนก็ห า ยหน้าหมดเลยไปทำงาน ที่ร้านเกมที่ไปเล่นประจำเป็นคนเฝ้าร้านเกม

ครอบครัวที่ 2 อยู่บ้านห้องเเถวธรรมดา

เป็นบ้านที่อยู่ระแวกเดียวกัน กับครอบครัวแรก ที่ร ว ยหล า ยร้อยล้าน ซึ่งทำการค้ าขา ยด้วยตัวเอง โดยการตื่นเช้าทุกวัน ขยันช่วยพ่อแม่ หาเ งินแล้วก็ไปเรียนเพื่อหาความรู้ ในช่วงบ่ายว่างจากการเรียน ก็มาช่วยงานยกของที่บ้านช่วยงานก รรมกร ตอนค่ำก็ปิดร้าน ดึกหน่อย ก็เตรียมการบ้าน อ่า นเขียว คนที่บ้าน มีปัญหา ป่ ว ยไ ข้ไม่สบาย

เขาจะลาอาจารย์กลับมา ดูแลตลอ ดในตอนนี้ เขาก็มีงาน มีเ งินหล า ยร้อยล้าน และที่ร่ำร ว ยได้ ก็เพราะความสามารถ ของเขาเองเรียนจบมาก็ทำงาน ดูแลครอบครัว และอยู่อ ย่ างมีความสุข ในบั้นปล า ยชีวิตก็ไม่ย ากลำบากอะไร แล้วคุณอย ากจะให้อนาคตลูก เป็นแบบไหน การอบรมเลี้ยงดูก็เป็นสิ่งสำคัญมากๆ การรักลูกนั้น มันดีแต่ก็ควรจะฝึกฝนเขาไปในตัวด้วย เพื่อให้มีทักษะในการใช้ชีวิตจริง ในสังคมได้ และเติบโตมาเป็นคนดีของสังคม และสามารถเอาตัวรอ ดได้ในทุกสถานการณ์

ที่มา sabuyjaijung  stand-smiling