หล า ยๆคนเวลามีความสุขหรือประสบความสำเร็จก็มักอย ากจะเปิดเ ผ ยให้คนอื่นได้รับรู้ไปด้วย แต่เรื่องบางเรื่องมันอาจจะส่งผลเ สี ยต่อตัวเราก็เป็นได้ โดยเฉพาะเรื่องงานฉนั้นวันนี้เราเลยอย ากจะบอ กถึงเพื่อนๆที่ทำงานว่ามีสิ่งไหนบ้างที่เราไม่ควรให้ใครรู้โดยเฉพาะอ ย่ างยิ่งหัวหน้างานเรา
เชื่อได้เลยว่าหัวหน้าของเราคงไม่อย ากเห็นรูปเราบนเ ฟ สบุ๊ คที่กำลังถือแก้วเ ห ล้ าพร้อมบรรย ากาศแบบปาร์ตี้สนุกสุดเหวี่ยงชนิดผมเพ้ากระเซอะกระเซิงเป็นอ ย่ างแน่ เ พ ร า ะนั่นอาจทำให้เราดูไม่เหมาะสมและเกิดความ ไม่ประทับใจเอาได้ความไม่เหมาะสมเหล่านี้อาจพานไปถึงเสื้อผ้าที่เราใส่ คนที่เราอยู่ด้วย กิจก ร ร มที่กำลังทำอยู่
หรือแม้แต่คอมเม้นท์จากเพื่อนของเราเองก็ต าม สิ่งเหล่านี้คือสิ่งเล็กๆที่อาจส่งผลต่อมุมมองของหัวหน้าหรือเพื่อนร่วมงานที่มีต่อเราได้ซึ่งมันอาจมีผลต่อ การเลื่อนตำแหน่ง หรือปรับเ งิ นเดือนของเราอาจดูเป็นเรื่องย ากที่ เราจะป้องกันตัวเองบนเ ฟ ส บุ๊ คจากเพื่อนร่วมงาน จำไว้ว่าการโพสก็เหมือนกับการพูด คิดก่อนพูด-คิดก่อนโพส เสมอครับ
ใช้ L i n k e d I n เป็นเครื่องมือในการเชื่อมต่อ กับสังคมในการทำงาน และเก็บ F a c e b o o k ไว้ใช้กับคนอื่นๆทั่วไปจะดีกว่าครับ เฟ สบุ๊ คเปรียบเสมือนกับกระจก 2 ด้านที่สะท้อนทั้งด้านดี และด้านไม่ดีของตัวเรา ใน คราวเดียวกัน, มันก็สามารถสะท้อนความรู้สึกด้านดี และด้านไม่ดีจากคนอื่นได้เช่นกัน
เ ผ ย ชั้นคิดว่าเขา/เธอ_ คนนั้นไร้ความสามารถ
ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ในทุกสถานที่ทำงาน มักจะต้องมีคนที่ข า ดความสามารถ หรืออาจข า ดคุณสมบัติบางประการเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว หากเราไม่มีความสามารถที่จะช่วยพัฒนาเขา หรือไม่มีอำนาจที่จะไล่เขาออ กเราก็ ไม่มีสิทธิที่จะบอ กว่าเขา/เธอคนนั้นไร้ความสามารถการลั่นวาจาว่าเพื่อนร่วมงานข า ดคุณสมบัติ
หรือข า ดความสามารถนั้น อาจทำให้ตัวเรารู้สึกสบายใจที่ดูเหนือ กว่าคนอื่น แต่เชื่อเถอะครับว่าความสบายใจเหล่านั้นคงอยู่ได้ไม่นาน เ พ ร า ะสุดท้ายแล้วเราจะโดนเพื่อนร่วมงาน มองว่าเราเป็นคนที่มีทัศนคติที่ย่ำแ ย่ หา อะไรมันไม่ได้ดั่งใจ ก็ขอให้ทำใจร่มๆไว้ ไม่อ ย่ างนั้นก็ให้คำแ น ะนำหรือสอนเพื่อนร่วมงานคนๆนั้นก็ได้ครับ
เ ผ ยการกระทำบ นเตี ย งของ คนอื่น
แน่นอนว่าการใช้ชีวิตในสังคม เราต้องรู้จักเคารพคนอื่นเสมอ การนำเรื่องส่วนตัวของคนอื่น มาเล่า นอ กจากจะทำให้ตัวเราสูญเ สี ยความเชื่อใจแล้ว ยังเป็นการไม่ให้เกียรติคนๆนั้นอ ย่ างที่สุด แน่นอนว่าคนอื่นๆรวมถึงหัวหน้า จะต้องมองเราในทางที่ไม่ดีเป็นอ ย่ างแน่ ยังคงยืนยันคำเดิมครับว่าให้เกียรติและเคารพกับเรื่องส่วนตัวทั้งของคนอื่น และของตัวเองเสมอ
เ ผ ยว่าไม่ชอบงานที่เราทำ
สิ่งที่น่าเบื่อหน่ายที่สุดที่ทุกคนไม่อย ากฟังในที่ทำงานนั่นก็คือการที่มีใครบางคนพร่ำบ่นว่าเขาเก ลี ย ดงานของเขามากแค่ไหน การเ ผ ยความรู้สึกเหล่านี้ออ กมาจะทำให้เราดูเป็นคน มองโลกในแง่ลบ และดูเป็นคน มี ทัศนคติที่ไม่ดี สิ่งเหล่านี้จะทำให้เพื่อนร่วมงานต่างก็พากันออ กห่าง และที่แ ย่เข้าไปอีกอาจทำให้หัวหน้าสุดที่รักของเรา ประเมินตัวเราในแง่ไม่ดีได้ หากยังคิดและบ่นพร่ำเพรื่อในทัศนคติแบบนี้ต่อไป ปรับเ งิ นดงปรับเ งิ นเดือน หรือเลื่อนข้งเลื่อนขั้นที ก็อ ย่ าหวังว่าจะเป็นเราเลยครับ
เ ผ ยเราหาเ งิ นได้มากแค่ไหน
อวดไปทำไมให้สึก คำพูดของท่านพุทธทาสภิกขุ ยังคงใช้ได้ดีอยู่เสมอ คุณพ่อคุณแม่ของเราอาจมีความสุขที่ได้ยินว่าเดือนต่อเดือนเราสามารถหาเ งิ นได้มากเท่าไหร่ แต่หากพูดในที่ทำงานนี่คงเป็นการส่งผลลบต่อตัว เราอ ย่ างใหญ่หลวง ถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมอ ย่ างยิ่ง เ พ ร า ะนั่นอาจทำให้เพื่อนร่วมงานของเราห มั่ นไ ส้
และมองเราในแง่ลบเอาได้ เชื่อเถอะครับว่าไม่มีใครชอบคนขี้อ ว ด คุ ยโวหรอ กครับ ยิ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับเ งิ นเดือนในที่ทำงานด้วยแล้ว ยิ่งแ ย่เข้าไปใหญ่คำว่า อวด มักใช้ไปในทางไม่ค่อยดีนัก ไม่ว่าจะเป็น อวดรู้, อวด ร ว ย, อวดเก่ง, อวดดี, อวดฉลาด, อวดนั่นอวดนี่ ฯลฯ แม้เรื่องดีๆในชีวิตก็ไม่ต้องอวด เ พ ร า ะของอะไรก็แล้วแต่อวดบ่อยๆแล้วมันทำให้สึกครับ
เ ผ ยถึงความห่ามของเราเมื่อสมัยเรียน
อ ดีตสามารถบ่งบอ กอะไรได้หล า ยอ ย่ างเกี่ยวกับตัวเรา แค่เ พ ร า ะว่ามันเป็นการกระทำห่ามๆบ้ าๆบอๆของเราในสมัยเมื่อ 20 ปีก่อนจะสามารถทำให้คนเชื่อได้ว่าปัจจุบันนี้เราพัฒนาและปรับปรุงตัวเองแล้ว เ พ ร า ะบางการกร ทำก็อาจถูกจัดให้อยู่ในหมวดกิจวัตรปกติประจำวันของเราได้ อาทิ การดื่มหนัก, ลั กเล็ก ข โ ม ยน้อย,
เมาแล้วขับ, แกล้งผู้อื่นและสั ต ว์ ฯลฯ บางครั้งอาจดูเป็นเรื่องสนุกๆสบายๆที่เล่าให้ฟังกันได้ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่ฟังจะมองว่ามันเป็นที่เรื่องขำๆชิลๆ ดังนั้นเราจึงต้องระวังไว้มากครับ ก่อนที่จะคิดหรือพูดอะไรออ กไปคุณค่า ของ ประสบการณ์ ไม่ได้อยู่ที่สอนให้เรารู้ว่า ควรทำ อะไรแต่อยู่ที่การเตือนสติว่าเรา ไม่ควรทำ อะไร
เ ผ ยถึงการเอาความดีเข้าตัว
การเอาดีเข้าตัว เป็นการกระทำที่ไม่ว่าจะยุคไหนสมัยไหน หรือสังคมไหนๆ ต่างก็ไม่มีใครชื่นชอบกันทั้งนั้นครับ เข้าใจว่าอย ากก้าวหน้า อย ากประสบความสำเร็จ จึงต้องแสดงความทะเยอทะย านด้วยการบอ กหัวหน้าว่า โปรเจคชิ้นนี้ตัวเราเองตั้งใจทำมากแค่ไหน ทั้งที่ความเป็นจริงโปรเจคนี้เราทำกันเป็นทีม สิ่งเหล่านี้ นอ กจากจะทำให้เพื่อนร่วมงานไม่พอใจแล้ว ยังทำให้หัวหน้ารู้ว่าเราเป็นคนเห็นแก่ตัวมากแค่ไหน อีกด้วยพนักงานที่ดีต้องการให้ทีมทั้งทีมประสบความสำเร็จ ไม่ใช่ต้องการแค่ตัวเองคนเดียวครับ
เ ผ ยความสุขนิยมในของมึนเมา
เราอาจคิดว่าการพูดถึงงานปาร์ตี้ต่างๆที่เราไปร่วมหัวราน้ำมา หรือ การสังสรรค์ที่แสนสนุกในแต่ละแมทช์ของเรานั้น อาจไม่มีผลต่อ การทำงานของเรา เ พ ร า ะงานของเราก็เสร็จทันเวลา และออ กมาสมบูรณ์แบบแทบทุกครั้ง แต่รู้หรือไม่ว่า, หัวหน้าอาจไม่ได้วัดกันที่ผลงานแต่อ ย่ างเดียว หากแต่วัดกันที่วินัยและความน่าเชื่อถือ
ด้วยการเล่าหรือพูดให้เพื่อนร่วมงานฟังเกี่ยวกับพฤติก ร ร มการดื่มหนักและความ เมา มันส์ของเรานั้น ไม่ได้ทำให้คนอื่นรู้สึกว่าเราเป็นคนสนุกหรือคนเจ๋งแต่อ ย่ างใด แต่มันทำให้พวกเขารู้สึกว่าเราเป็นคนที่ยังไม่เป็นผู้ใหญ่ พอ และติดเที่ยวติดสนุกจนเกินไป หล า ยคน มีมุมมองด้านลบเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ เ พ ร า ะฉะนั้น ทางที่ดีเราเก็บเกี่ยวและซึมซับความสนุกเหล่านั้นไว้กับตัวเราและเพื่อนๆใกล้ตัวของเราจะดีกว่าครับ
เ ผ ยมุมมองเรื่องการเมือง และความเชื่อทางศาสนา
ว่ากันว่า, รสนิยมและมุมมองส่วนตัวในเรื่องการเมืองและศาสนาเป็นสิ่งที่ก้าวก่ายกันไม่ได้ และที่สำคัญต้องให้ความเคารพซึ่งกันและกัน การแสดงความไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ อาจทำให้เกิดข้ อพิพาทระหว่างเรา กับเพื่อนร่วมงานเอาได้ บางร า ยอาจถึงขั้นนึกว่าชวนทะเลาะตบตีกันเลยทีเดียว บางครั้งการรู้จักยอมรับ และรับฟังอาจเป็นการกระทำที่ดีที่สุด หัดปล่อยผ่านและปล่อยวางไปบ้ าง คิดเ สี ยว่าเราทุกคน มีสิทธิที่จะเชื่อในสิ่งที่เขาเชื่อมั่นครับ
เ ผ ยมุขตลกเสื่อมๆ
มีสิ่งหนึ่งที่เราสามารถเรียนรู้ได้จากดาราเซเลบฯคนดังทั้งหล า ยนั่นก็คือระมัดระวังในสิ่งที่พูด และคนที่เราพูดด้วย มุขตลกลามกหย าบคาย มุขตลกก้าวร้าว หรือมุขตลกเสื่อมๆ อาจทำให้ผู้อื่นรู้สึกแ ย่ได้ และยังทำให้เรา แ ย่ได้อีกด้วยมัน มีเส้นด้ายบางๆระหว่างคำว่า มุขตลก กับ ไม่เหมาะสม เสมอ เราไม่มีทางรู้ว่า คนที่เล่าเล่น มุขด้วยนั้น เขาอาจจะเคยมีประสบการณ์ที่เ ล วร้ า ยในอ ดีตเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆหรือเปล่า ดังนั้นเมื่อต้องคิดก่อนพูด คิดก่อนโพสแล้วก็อ ย่ าลืมคิดก่อนเล่น มุขด้วยครับ
เ ผ ยว่ากำลังหางานใหม่
จังหวะ ถือเป็นเรื่องที่สำคัญในชีวิตของเราทุกคน ทั้งด้านการพูดและการกระทำ สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากที่เราเที่ยวบอ กใครต่อใครในที่ทำงานว่ากำลังหางานใหม่นั่นก็คือเราจะกล า ยเป็นบุคคลไร้ประโยชน์ไปโดยปริย าย และยังทำให้คนอื่นๆรู้สึกว่าเราทำให้พวกเขาเ สี ยเวลาอีกด้วย นอ กจากนั้นโอกาสที่จะไม่ประสบความสำเร็จ
ในการหางานใหม่ยังมีสูง ทางที่ดีเราควรจะรอให้เราได้งานชัวร์ๆก่อนที่จะเที่ยวไปปาวๆบอ กใครต่อใคร มิเช่นนั้น, อาจกล า ยเป็นคนว่างงานได้นะครับอนึ่ง, ไม่จำเป็นที่ชีวิตจะต้อง สวยหรูเ พ ร า ะคนที่สวยหรู ก็อยู่บนถนนที่ เราเดินเช่นกัน
เ ผ ยการกระทำบน เตียง
เรื่องบ นเตี ย ง ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ส่วนตัวมาก และส่วนตัวจนไม่ควรเอามาเที่ยวเล่าให้ใครต่อใครฟัง โดยเฉพาะอ ย่ างยิ่งกับสังคมในที่ทำงานของเรา การเ ผ ยเรื่องเหล่านี้อาจดูเป็นบทสนทนาที่สนุกสนาน และทำให้เราดู เป็นคนจริงใจ เหรอ แต่ในคราวเดียวกัน, มันอาจทำให้เราดูเป็นคนไม่น่าเคารพ และเราอาจมีกิตติศัพท์ที่ไม่ดีเอาได้ ให้เกียรติและเคารพกับเรื่องส่วนตัวของเราเองเสมอครับ
ที่มา marketingoops fahhsai