เมื่อร า ยจ่ายมากกว่าร า ยรับ จะทำอ ย่ างไร

ร า ยจ่ายมากกว่าร า ยรับ เกิดขึ้นได้อ ย่ างไรบ้ าง

การที่ร า ยจ่ายมากกว่าร า ยรับนั้น ส่วนใหญ่จะเกิดจากการใช้จ่ายแบบไม่มีการวางแผนของเราให้ดี ซึ่งทำให้เราไม่รู้ว่าใช้จ่ายไปแล้วเท่าไหร่ และ มีเ งิ นที่สามารถใช้ได้ เหลืออยู่อีกเท่าไหร่ รวมถึงไม่สามารถแยกร า ยจ่ายที่จำเป็นและไม่จำเป็นออ กจากกันได้ นอ กจากนี้ยังรวมถึงรูปแบบวิ ธีการใช้จ่ายอีกด้วย ที่บางคนนั้นเ งิ นเดือนไม่มาก

แต่ใช้จ่ายแบบคนที่มีเ งิ นเดือนสูงๆ เพราะต้องการมีหน้ามีต ามากกว่าหรือเทียบเท่าผู้อื่น จึงเลือ กใช้ของแพงๆ โดยที่ไม่สนใจว่าร า ยได้ของตัวเองนั้นจะเพียงพอให้ใช้จ่ายหรือไม่

ก็จะส่งผลให้ร า ยจ่ายสูงกว่าร า ยรับ หรืออาจจะเรียกสั้นๆ ได้ว่า ใช้จ่ายเกินตัว นั่นเองหากใครที่เคยเป็นแบบนี้จนเกิดปัญหาร า ยจ่ายมากกว่าร า ยรับ และอย ากแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นกับเราอีกก็สามารถดูในหัวข้ อต่อไปได้เลยครับ

ร า ยจ่ายมากกว่าร า ยรับ จะเกิดอะไรขึ้นบ้ าง

มีความเสี่ ยงสูงที่เราจะเป็นห นี้จากการกู้ยืม ไม่ว่าจะเป็นห นี้ในระบบ หรือ ห นี้นอ กระบบต้องเดือ ดร้อนหาเ งิ น มาให้เพียงพอต่อ การใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการ หาร า ยได้เสริม หรือ การหยิบยืมสถานภาพทางการเ งิ นย่ำแ ย่ จนอาจจะส่งผลให้ประวัติการเ งิ นของเราไม่ดี ซึ่งจะมีผลต่อ การทำธุรก ร ร มกับทางธนาคารในอนาคตด้วยมีเ งิ นไม่เพียงพอที่จะใช้จ่าย

ในชีวิตประจำวัน อาจจะส่งผลให้อ ดมื้อ กิน มื้อ ซึ่งนอ กจากที่เราหยิบยกมานี้ก็ยังมีสิ่งอื่นๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นอีกก็ได้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยของแต่ละคน แต่ถึงอ ย่ างไรนั้นการห ลี กเลี่ยง ไม่ให้เกิดปัญหานี้ขึ้นกับตัวเราเองก็จะเป็นการดีที่สุดครับ แต่หากว่าปัญหานี้เกิดขึ้น มาแล้ว และกำลังมองหาวิ ธีแก้ไขก็ติดต ามในหัวข้ อต่อๆ ไปได้เลยครับ

ร า ยจ่ายมากกว่าร า ยรับ จะแก้ไขอ ย่ างไรได้บ้ าง

แยกให้ออ กระหว่าง ร า ยจ่ายจำเป็นและร า ยจ่ายไม่จำเป็นสิ่งแรกที่เราควรจะใส่ใจก็คือ การแยกแยะร า ยจ่ายที่จำเป็นและไม่จำเป็นออ กจากกัน เพื่อที่เรานั้นจะได้รู้ว่าสาเหตุที่ เรามีร า ยจ่ายเยอะกว่าร า ยรับนั้น มาจากสาเหตุอะไรบ้ าง ตัวอ ย่ างร า ยจ่ายจำเป็นก็เช่น ค่าน้ำค่าไฟ ค่าอ าห า ร ค่าเดินทางไปทำงาน เป็นต้น หรือเข้าใจง่ายๆ ก็คือ ร า ยจ่ายที่เรา

ต้องใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันนั่นเอง ส่วนร า ยจ่ายไม่จำเป็นก็เช่น ค่าเปลี่ยน มือถือใหม่ต ามแฟชั่น เป็นต้น หรือร า ยจ่ายที่ไม่จำเป็นในการดำเนินชีวิตของเรา หากงดใช้จ่าย ก็ไม่ส่งผลอะไรต่อชีวิต แต่อ ย่ าลืมว่าต้องแยกให้ชัดด้วยนะครับว่าจำเป็นจริงๆ หรือว่าเรานั้นคิดว่าจำเป็น เพราะส่วนนี้จะมีผลต่อค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นครับ

หากมีห นี้ให้รีบจัดการ

หากช่วงที่เรามีร า ยจ่ายมากกว่าร า ยรับนั้น ทำให้เราเป็นห นี้ ก็ขอแนะนำว่า หลังจากลดร า ยจ่ายที่ไม่จำเป็นลงแล้ว ก็ให้รีบวางแผนจัดการห นี้ที่มีอยู่ให้หมดไปโดยเร็ว เพราะยิ่งปล่อยไว้นานๆ ด อ กเ บี้ ยก็จะยิ่งเพิ่มขึ้น ซึ่งไม่ส่งผลดีต่อเราเลย

ตัดร า ยจ่ายที่ไม่จำเป็นออ ก

ขั้นต่อมาเมื่อเรารู้แล้วว่าอะไรคือร า ยจ่ายจำเป็นและไม่จำเป็น ก็ให้เราตัดในส่วนของค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออ กทั้งหมด เพื่อลดค่าใช้จ่ายโดยรวมของเราลงครับ

หาร า ยได้เสริมเพื่อเพิ่มร า ยรับ

หนทางหนึ่งในการเพิ่มร า ยรับของเราที่ดีมากๆ ก็คือ การหาร า ยได้เสริมนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นการทำ OT หรือ ว่าจะหาร า ยได้เสริมจากการข า ยอ อ น ไ ล น์ หรือจากช่องทางอื่นๆ ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีทั้งนั้น อ ย่ างที่มีคนพูดกันไว้ว่า เรานั้นควรจะมีร า ยรับมากกว่าหนึ่งทางนั่นเอง

เปลี่ยนงานใหม่

หากว่าเรานั้นรู้สึกว่างานที่ทำอยู่นั้นให้ผลตอบแทนน้อยเกินไป เราก็สามารถที่จะมองหางานใหม่ได้ เพื่อที่จะได้รับผลตอบแทนที่มากขึ้น แต่ทว่าข้ อนี้เราควรพิจารณาให้ดีก่อน การตัดสินใจนะครับ เพราะอนาคตไม่มีอะไรแน่นอน รวมถึงปัญหาในที่ทำงานใหม่ด้วย เพราะในทุกที่ทำงานนั้น มีปัญหาเสมอ ไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ล้วน มีปัญหาด้วยกันทั้งนั้น

ดังนั้นอ ย่ าลืมศึกษาร า ยละเอียดของบริษัทและงานใหม่ให้ดีด้วยนะครับทางที่ดีนั้นไม่ว่าเราจะเ งิ นเดือน มากหรือเ งิ นเดือนน้อย ก็ควรที่จะรั กษ าสมดุลระหว่างร า ยรับและร า ยจ่าย ให้ดีอยู่เสมอ พย าย ามอ ย่ าให้ร า ยจ่ายสูงกว่าร า ยรับ เพื่อที่เรานั้นจะได้ไม่ต้องเดือ ดร้อนหรือลำบากเรื่องเ งิ นครับ

ที่มา m o n e y g u r u  fahhsai