5 ข้ อคิด แก่อ ย่ างไร ให้เป็นที่รักของลูกหลาน ใช้ชีวิตให้เป็นสุข

เมื่อก้าวเข้าสู่วัยผู้สูงอายุ ก็จะเกิดความเปลี่ยนแปลงในหล า ยด้านในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ผู้สูงอายุก็จำเป็นที่จะต้องปรับตัวและพร้อมที่จะรับมือสำหรับการเปลี่ยนแปลงต ามวัยที่ไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงได้ และการปรับตัวนี้ก็จะส่งผลทำให้ลูกหลานรัก เคารพ นับถือ เป็นคนสูงวัยที่มีคุณค่าสำหรับลูกหลาน

แก่อ ย่ างมีคุณค่า ชร าอ ย่ างมีคุณภาพ อยู่ไปนานๆ ให้ลูกหลานเคารพรัก อ ย่ าแก่เพร าะกินข้าว เฒ่าเพร าะอยู่นาน เมื่ออายุมากขึ้นแล้ว จงใช้ชีวิตให้มีความสุขมากขึ้นต ามอายุของเรานะ

1. เมื่ออายุมากขึ้นให้รู้จักปล่อยวาง

ต้องรู้จักปล่อยวาง เรื่องร าวบางอ ย่ างที่ควรต้องปล่อย เพร าะใจของคนเราแบกรับได้จำกัด อ ย่ าเอาแต่คับแค้นฝังใจ ปล่อยวางตำแหน่งฐานะที่เคยดำรง ปล่อยวางอ ดีต เรียนรู้การใช้ชีวิตในปัจจุบัน เป็นสุขในวัยชร าให้ได้

2. เมื่ออายุมากขึ้นต้องรู้จักวางมือ

เราไม่มีทางทำงานไปได้ตลอ ดชีวิต หรือคิดดูแลลูกหลานไปจนวันสุดท้ายของเขา ฉะนั้นต้องรู้จักวางมือ ลูกหลาน มีบุญวาสนา และทางเดินของลูกหลานเอง หากคิดแทนไปเ สี ยหมด เรานั่นแหละที่จะเหนื่อยตลอ ดชาติ วันหนึ่งที่เราจากไป พวกเขาจะมีชีวิตอยู่ต่อได้อ ย่ างไรกัน การรู้จักวางมือ คือ การฝึกเชื่อใจในลูกหลานของเรา และเป็นการส่งเสริมลูกหลานไปในตัวด้วย

3. อายุมากขึ้นก็เปรียบดั่งไม้ใกล้ฝั่ง

ตัณหา ต้องลดลง ความโลภ โ ก ร ธ หลง ต้องลดลง คุณธรรม ความสุขุม จะต้องมากขึ้น ความเมตต า กรุณา มุทิต า อุเบกขา ต้องมากขึ้น หมั่นเตือนตัวเองเอาไว้ว่า อยู่ให้ลูกหลานเคารพรัก มิใช่อยู่ให้ลูกหลานหวาดกลัว จนไม่มีใครยอมเข้าใกล้

4. ต้องรู้จักวางอารมณ์

สังคมในอ ดีตมีความย ากของคนในอ ดีต สังคมในปัจจุบัน มีความย ากของคนในปัจจุบันเช่นกัน อ ย่ าเอาความคิดตัวเองมาเป็นที่ตั้ง ไม่พอใจอะไรก็ว่าลูกหลานด้วยอารมณ์

ถ้าทำเช่นนี้ครั้งหนึ่ง คุณธรรมจะห า ยไปครั้งหนึ่ง วาสนาของลูกหลานห า ยไปส่วนหนึ่ง เพร าะพ่อแม่คือพระพรหมของลูก หากพ่อแม่เอาแต่แช่งด่า ลูกหลานจะเจริญได้อ ย่ างไรกัน

5. อายุมากขึ้นแล้ว ต้องรู้จักตัดใจ

บางสิ่งบางอ ย่ าง เมื่อสูญเ สี ยไปแล้วก็อ ย่ าได้ยึดติด คิดให้ได้ว่า เดิมทีมันก็ไม่ได้เป็นของเราอยู่แล้ว และวันสุดท้ายในชีวิต เราก็เอาอะไรไปไม่ได้ทั้งนั้น เมื่อตัดใจได้ ก็มีความสุขกับสิ่งที่มีอยู่

ที่มา  aansanook