8 สิ่งที่คนรู้จักเอาใจใส่คนอื่นเขาทำกัน อยู่ที่ไหนก็มีแต่คนรัก

การพย าย าม เป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน มากเกินไป อาจทำให้คุณกล า ยเป็นคนที่ไม่มีใครชอบขี้หน้าได้ง่ายๆ วิ ธีที่จะมัดใจเพื่อนร่วมงานได้อยู่หมัดที่สุดก็ต้องเป็นการเพิ่มเ ส น่ ห์ให้ตัวเอง คน มีเ ส น่ ห์ไม่เหมือนกับการเป็นคน มีไหวพริบ ตลก มนุษยสัมพันธ์ดี หรือหน้าต าดี ที่จริงแล้วคนที่มีเ ส น่ ห์มากๆ บางคนก็เป็นคนเงียบๆ และขี้อายด้วยซ้ำ ดังนั้นอ ย่ ากังวลไปหากคุณเป็นคนพูดน้อยหรือขี้อาย

การเอาใจใส่ผู้อื่น จะช่วยให้คุณก้าวหน้าในชีวิตยิ่งกว่าที่โรงเรียนหรือปริญญาใดๆ จะช่วยได้ผมเชื่อว่าพวกเราทุกคนต่างก็ต้องการเป็นที่รักของใครต่อใคร จริงไหม ใครจะ อ ย า ก เป็นที่ถูกรังเ กี ย จกันล่ะ และการที่จะเป็นคนแบบนั้นได้ มันไม่ ย า ก เลย คุณเพียงแค่ต้อง พ ย า ย า ม สร้างพฤติก ร ร มในแบบที่ คนที่เอาใจใส่ผู้อื่นเขาทำกันยังไงล่ะ

1. มี ม าร ย า ท

มีหล า ยท่านที่ผมรู้จักคิดว่า ม า ร ย า ท เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น อีกทั้งยังมองว่าเป็นสิ่งที่ไร้ส า ระอีกด้วย เพราะมันคือ การเสแสร้างแกล้งทำกลุ่มคนเหล่านี้จะเชื่อว่าการมี ม า ร ย า ท คือ การแสดงออ กในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเอง ซึ่งพวกเขากำลังเข้าใจผิ ด เพราะการมี ม า ร ย า ท คือ การให้ความสำคัญกับความรู้สึกของผู้อื่น ไม่ใช่แค่ความรู้สึกของตัวคุณเองเท่านั้น มันคือ การแสดงออ กที่ตั้งใจจะทำให้ผู้อื่นรู้สึกสบายใจ

2. เห็นอ กเห็นใจผู้อื่นอยู่เสมอ

การเห็นใจผู้อื่นเป็นเรื่องหนึ่ง ส่วนการแสดงความรู้สึกเห็นใจออ กมาก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง มันเป็นเรื่องที่ดีหากคุณสามารถเข้าใจผู้อื่นแต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะเป็นคนที่เอาใจใส่ผู้อื่นหรอ กนะ การเอาใจใส่และเห็นใจผู้อื่นอ ย่ างแท้จริงนั้นคุณจะต้องเข้าใจอีกฝ่ายเสมือนอยู่ในสถานการณ์เดียวกับเขา

คุณอาจจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองบ้ างในบางครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนพฤติก ร ร มของคุณเพื่อทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดีหรือเสนอความช่วยเหลือในสถานการณ์ที่พวกเขารู้สึก ย่ำ แ ย่ ก็ต าม

3. ยิ้มบ่อยๆ

ในหลักการทางกายภาพแล้ว การทำหน้าบึ้งมักจะง่ายกว่าการยิ้ม เนื่องการยิ้มนั้นต้องใช้ ก ล้ า ม เ นื้ อ ถึง 24 มัดด้วยกันแต่อ ย่ างไรก็ต าม การยิ้มก็ให้ผลดีเสมอ อีกทั้งยังก่อให้เกิดผลที่ดีมากๆ ต่อบุคคลอื่น ในขณะที่คุยกับผู้อื่น มนุษย์เรามักจะปฏิบัติตัวเหมือนเป็นกระจกสะท้อนฝ่ายตรงข้ามโดยที่คุณเองก็ไม่รู้ตัว ดังนั้นเมื่อคุณยิ้มให้ผู้อื่น เขาก็จะได้รับความรู้สึกดีๆ เหล่านั้นไปโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ตัวเช่นกัน

4. กล่าวขอโ ท ษเมื่อจำเป็น และไม่กล่าวพร่ำเพรื่อ

มนุษย์เรามักกลัวเวลาที่จะไปทำให้ใครคนอื่นรู้สึก แ ย่ และมักรู้สึกผิ ดพร้อมกล่าวคำขอโ ท ษบ่อยครั้งบ่อยครา จนคุณค่าของคำขอโ ท ษนั้นอาจจะลดหลั่นลงไป ซึ่งมันจะแตกต่างโดยสิ้นเชิงกับการขอโ ท ษด้วยความจริงใจเมื่อครั้งที่คุณรู้สึกผิ ดจริงๆหรือ กล่าวเพราะรู้สึกจำเป็น การขอโ ท ษเป็นส่วนสำคัญอ ย่ างยิ่งของการเป็นคนที่เอาใจใส่ผู้อื่น

5. ตรงต่อเวลา

แน่นอนว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นรถติด รถเ สี ย หรืออะไรก็ต ามแต่ แต่การที่คุณสายเป็นประจำมันแสดงให้เห็นว่าเวลาของคุณมีค่ามากกว่าเวลาของคนอื่น อีกทั้งมันยังเป็นการเ สี ย ม า ร ย า ท อีกด้วย หรือแม้ว่าคุณจะคิดว่าเวลาของคุณสำคัญกว่าของคนอื่นจริงๆคุณก็ไม่จำเป็นต้องป่าวประกาศให้โลกรู้ สิ่งที่คุณควรทำก็คือ เอาใจเขามาใส่ใจเราและเป็นคนตรงเวลา

6. แสดงความช่วยเหลือให้กับผู้อื่น

บางครั้งคุณสามารถรู้ได้ว่าเขากำลังโมโหหรือ กำลังรู้สึก แ ย่ เพราะฉะนั้นการเป็นคนเอาใจใส่ผู้อื่นจึงหมายถึงการที่คุณรู้ว่าใครกำลังต้องการความช่วยเหลือจากคุณอยู่ ซึ่งเมื่อคุณลงมือให้ความช่วยเหลือพวกเขาแล้ว พวกเขาจะประทับใจในความห่วงใยของคุณอ ย่ างมากเลยทีเดียว

7. มีความฉลาดทางอารมณ์

หนึ่งในความเชื่อผิ ดๆ ในสังคมเราคือ รู้สึกเช่นไรก็ต้องแสดงออ กไปเช่นนั้น ซึ่งมันไม่ถูกต้องเ สี ยทั้งหมดเพราะมันยังมีสิ่งหนึ่งที่เรียกว่า การควบคุมตัวเอง ตัวอ ย่ างเช่น การทำตัวเป็น มิตรกับคนที่ดูเหมือนว่าไม่ได้ อ ย า ก จะเป็น มิตรกับคุณเท่าไหร่นัก

ซึ่งการเป็นคนที่ใส่ใจผู้อื่นนั้น คือ การเลือ กไม่แสดงออ กในสิ่งที่คุณรู้สึกจริงๆ นั่นเองการเป็นคนที่เอาใจใส่ผู้อื่นเป็นเรื่องที่ดีทั้งด้าน ร่ า ง ก า ย และจิตใจ อีกทั้งยังส่งผลดีต่อหน้าที่การงานและคนรอบข้างคุณด้วย และเหนือสิ่งอื่นใด คุณเองก็รู้สึกดีไม่น้อยไปกว่าใครเลย

8. พ ย า ย า ม ผลักดันให้ผู้อื่นเป็นผู้ชนะ

หล า ยๆ คนชอบใช้ชีวิตในแบบที่ต้องมีผู้แพ้และผู้ชนะ ส่วนคนที่ใส่ใจผู้อื่นจะไม่ พ ย า ย า ม มองหาผู้แพ้หรือผู้ชนะแต่พวกเขาจะ พ ย า ย า ม ผลักดันให้ทุกคนเป็นผู้ชนะให้ได้ มันไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปได้ง่าย แต่มันก็คือเป้าหมายหากคุณต้องการเป็นคนที่เอาใจใส่ผู้อื่น คุณต้องล้มเลิกความคิดที่ว่าชีวิตคนเราต้องมีผู้แพ้หรือผู้ชนะได้แล้ว

ที่มา  yimlamun