7 ข้ อใช้ปรับตัวให้ชีวิตอยู่รอ ด ในวันที่เ ศ ร ษ ฐ กิ จย่ำแย่

เชื่อว่าในช่วงเวลานี้ หล า ยๆ คนคงจะได้ยินเ สี ยงบ่นหนาหูจากบรรดาพ่อค้ าแม่ค้ า ว่าข า ยของไม่ดี ไม่มีลูกค้ า ข า ยของไม่หมด ขณะที่ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ก็แพงขึ้น

ปัญหาเหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นจากภาวะเ ศ ร ษ ฐ กิ จฝืดเคือง ซึ่งน่าจะส่งผลกระทบไปต ามๆ กัน ไม่เว้นแม้แต่มนุษย์เงินเดือน พนักงานประจำ รวมถึงผู้ประกอบการธุรกิจต่างๆ ด้วย

วันนี้เราจึงอย ากนำเสนอวิ ธีการรับมือ กับสถานการณ์เ ศ ร ษ ฐ กิ จในประเทศฝืดเคือง เพื่อให้พ่อค้ าแม่ค้ า ประชาชนทั่วไป รวมถึงผู้ประกอบการต่างๆ นำไปปฏิบัติ และใช้ในการดำเนินชีวิตอ ย่ างมีความสุขครับ

1. หัน มาผลิตเพื่อบริโภคภายในครัวเรือน

หากที่บ้านไหน มีพื้นที่ว่างๆ สนามหญ้าหลังบ้านหรือหน้าบ้านเล็กๆ อาจจะลองนำเอา เมล็ดพันธุ์ผักปลอ ดส า ร พิ ษต่างๆไปปลูกดู ดั่งคำพูดที่ว่า กินทุกอย่ างที่ปลูกและปลูกทุกอย่ างที่กิน จะช่วยให้เราประหยัดไม่ต้องซื้ อผักจากตลาด แถมยังจะได้ผักที่สดสะอาดมั่นใจได้ว่า

ปลอ ดภั ยเพราะเราปลูกด้วยตนเอง แต่ถ้าใครที่อยู่บ้านเช่าตึกแถว คอนโด อาพาต์เม้น ต่างๆอาจจะไม่ค่อยมีพื้นที่สักเท่าไหร่ แนะนำให้ลองหาอะไรมาดัดแปลงเป็นกระบะ หรือ กระถาง ใส่ดิน ปลูกผักห้อยวางต ามระเบียง เพียงเท่านี้ก็จะได้ผักสวนครัว แบบกระถางห้อยกินได้แล้วครับ

2. ทำบัญชีรายรับรายจ่ายประจำวัน

หล า ยคนอาจจะคิดว่า การทำบัญชีนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเราเลย ที่จริงแล้วมีผลนะครับ บัญชีทำให้เรารู้ว่า เรามีรายรับอะไรเท่าไหร่บ้าง มีรายจ่ายหมด ไปกับสินค้ าบริการประเภทไหนบ้างและเรามีภาระที่ต้องชำระค่าอะไรบ้าง สิ่งเหล่านี้เป็นเหมือนเครื่องเ ตื อ นสติ

ไม่ให้เราใช้จ่ายเงินจนเกินตัว โดยไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ เมื่อเราเห็นภาพรวม ของการเงินของเราแล้ว ก็จะทำให้เรามีการวางแผนทางการเงินที่ดีขึ้นได้ โดยเฉพาะใครที่อย ากมีเงินออมตอนสิ้นเดือนทุกๆเดือนแล้วล่ะก็ อย่ าลืมจดบันทึกและแบ่งเงินเก็บออมไว้เพื่ออนา ค ต กันบ้างนะครับ

3. รู้จักประมาณตนในการใช้จ่าย

ก่อนที่จะควักเงินออ กจากกระเป๋าแต่ละที ควรคิดให้ดีดีก่อนครับว่า สิ่งที่เรากำลังจะแลกมานั้น มัน มีความจำเป็น มากน้อยเพียงใด ถ้าสิ่งที่เกี่ยวกับเรื่องปากท้อง อย่ าง ข้าวส า ร อาหารแห้ง ผัก ผลไม้ น้ำดื่ม ฯลฯ

ของแบบนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นในการดำรงชีพ หล า ยครอบครัวอาจไว้จะมีซื้ อมาตุนไว้ก็ถือว่า เป็นไอเดียที่ดี แต่ ร ะ วั งของหมดอายุด้วยนะครับ ส่วนสิ่งของที่เป็นพวกเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย กระเป๋า รองเท้า สินค้ าไอทีต่างๆ พวกนี้อาจจะต้องคิดสักหน่อยก่อนซื้ อ เพราะบางอย่ างก็อาจจะไม่จำเป็น

4. หารายได้เสริม

จากวันว่างหรือวันหยุดสุดสัปดาห์ ช่วยๆกันในครอบครัวครับ พ่อ แม่ ลูก ลองคิดว่า จะช่วยกันทำอย่ างไร เพื่อให้มีรายรับเพิ่มเข้ามา อาจจะช่วยกันทำขน มหรือทำอาหาร ,นำผักที่ปลูกไปข า ยที่ตลาด หรือคุณแม่บ้านอาจจะมีอาชีพเสริม เช่น การเย็บปักถักร้อย,ทำตุ๊กต า,

ทำงานฝีมือ แล้วให้ลูกๆช่วยเรื่องการถ่ายภาพจัดต ก แต่ง ลงโพสต์ข า ยใน โซเชียลต่างๆ เป็นต้น นอ กจากนี้ ยังมีอาชีพเสริมอีกมายมาย ที่ให้เลือ กต ามความถนัดและต ามความสาม า ร ถของแต่ละคน อย่ าง รับสอนพิเศษ รับเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ นักแปลภาษา เป็นไกด์ทัวร์นำเที่ยวช่วงเทศก า ล และวันหยุด เป็นต้น

5. นำของเก่ามาทำเป็นของใหม่

ต่อเนื่องจากข้ อแรกครับ ที่บอ กว่า ให้ซื้ อแต่สิ่งที่จำเป็น สำรวจดูในบ้านบ้างครับว่า สิ่งของชิ้นไหนที่ยังพอใช้ได้ แต่สภาพเก่าไปบ้างก็ไม่เป็นไร นำมาซ่อมแซมหรือ ดัดแปลง ให้มันใช้งานได้หลากหล า ยขึ้น จะช่วยให้เราประหยัดไม่ต้องเปลืองตังค์ซื้ อ แถมยังได้ของใหม่ที่ทำขึ้นเองด้วยครับ

6. สร้างนิสัยรักการเก็บออม

สำหรับผมแล้วเป็นคนที่ชอบออมเงิน และมีวิ ธีการในการออมดังนี้ครับ ถ้ามีรายได้เข้ามา ผมจะแบ่งเก็บออมไว้เลย 10-20 เปอร์เซน จากนั้น เวลาที่เราได้รับเงินโบนัสหรือส่วนล ดเมื่อซื้ อสินค้ ารายได้เสริมและรายได้พิเศษต่างๆ ผมก็จะเก็บไว้เป็นเงินออมและเป็นเงินทุนสำรอง

ไว้ใช้จ่ายในย ามฉุกเฉินครับ แรกๆมันก็อาจจะย ากนิดหน่อย ตรงที่เราต้องมีสติควบคุมจิตใจของตนเอง และมีวินัยในการใช้เงิน มากขึ้น แต่พอทำไปสักพักเราก็จะเริ่มติ ด เป็นนิสัยจนทุกวันนี้ผมก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องย ากอีกต่อไปแล้ว

7. ติ ด ต ามส่วนล ด โปรโมชั่นดีดี

ถ้าจะซื้ ออะไรสักอย่ างแล้วเลือ กซื้ อที่มีรายการส่วนล ดด้วยนั้น จะช่วยเซฟเงินในกระเป๋าของเราได้บ้าง หรือถ้าใครที่ใช้จ่ายผ่ า นบั ตรเครดิตเป็นประจำ ก็จะมีโปรโมชั่นเสริมต่างๆมากมาย เช่นสะสมคะแนนเพื่อแลกรับของรางวัลและส่วนล ด ฟรีค่าที่พัก ค่าเดินทางค่าเครื่องบิน ต ามแต่ละประเภทของบัตรและสินค้ าที่ร่วมรายการ

หากว่าท่านผู้อ่ า น และใครที่สนใจอาจจะลองนำไป ปรับใช้ดูก็ได้นะครับ ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในช่วงที่ของแพง เ ศ ร ษ ฐ กิ จ ไม่ดี การประหยัดมากจนเกินไปก็อาจจะส่งผ ลเ สี ย กับสุ ข ภ า พกายและจิตได้ ดังนั้นเราจึงควรดำรงตนบนพื้นฐานแห่งความพอ ดี

เดินทางสายกลาง ไม่โลภมาก ไม่ฟุ่มเฟือย หรือขี้เหนียวจนเกินไป ช่วยเหลือคนรอบข้างที่ต ก ทุ ก ข์ได้ย ากบ้าง และรู้จักการใช้ชีวิตบนความไม่ประมาทในทุกๆเรื่อง ไม่ว่า เ ศ ร ษ ฐ กิ จ จะเป็นแบบไหน หากว่าเราได้สร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตนเองแล้ว

ที่มา  108resources